แถลงการจับยาบ้า
21028 เม็ด โดยชุดเฉพาะกิจโชคชัย ชุมพร
วันที่ 30 พฤศจิกายน
2560 เวลา 14.00 น.
ที่ศูนย์เฉพาะกิจโชคชัยกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 จังหวัดชุมพร
โดยนายณรงค์พลละเอียดผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรนายประจินต์ธารศิริสินปลัดจังหวัดชุมพร
และพันโทพูนศักดิ์ พรประเสริฐผู้บังคับการหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองกำลังเทพสตรี จ.ส.ต.ฐิติวัชร บุญกิจ
ป้องกันจังหวัดชุมพร ผบ.ร้อย อส. จังหวัดชุมพรที่ 1 หัวหน้าชุดฉก.โชคชัย.
ร่วมกันแถลงข่าวว่าเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ชุด
ฉก.โชคชัยนำกำลังกองร้อยออสอจังหวัดชุมพรที่ 1 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารนำโดย
ร.ต.ถนัด ยศสิงห์หัวหน้า ชป.รส.ที่2 มทบ.44และ
ขกท. กองกำลังเทพสตรี
บุกเข้าจับกุม นายเดชฤทธิ์หรือบาว
ทองจีนสังข์ อายุ 35 ปีที่บ้านเลขที่ 240 หมู่ที่
8 ตำบลทุ่งคาวัดอำเภอละแม จังหวัดชุมพร
เลขประจำตัวประชาชน 3930400053540 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่
1 ยาไอซ์ชนิดเกร็ดจำนวน 18 กรัม ยาบ้าจำนวน 20 เม็ด
ตรวจยึดที่จุดเกิดเหตุจากนั้นได้มีการขยายผลจนสามารถยึดยาบ้าได้อีกจำนวน 21,008
เม็ดรวมเป็น 21,028 เม็ดและยาไอซ์อีกจำนวน 33 กรัมรวมเป็น
51 กรัม โดยในวันที่ 27 พฤศจิกายน
2560 ช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่านายเดชฤทธิ์
มีพฤติกรรมเป็นผู้ค้ายาเสพติด จึงรวบรวมข้อมูลและวางแผนเข้าจับกุมพบนายเดชฤทธิ์ เดินถือกระรอก
1 ตัว
อยู่ในสวนปาล์มเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นที่ตัวและพบยาบ้า 20 เม็ดและยาไอซ์
18 กรัม ในขนำที่นาย เดชฤทธิ์ สร้างไว้มั่วสุม
ยาเสพติดแต่ยังตรวจค้นไม่สำเร็จเนื่องจากเป็นช่วงกลางคืนจึงนำตัวนายเดชฤทธิ์มาที่กองร้อยออสอจังหวัดชุมพรที่
1 รุ่งเช้าในวันที่ 28 พฤศจิกายน
2560 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวทค้นเพิ่มเติมในบ้านของนายเดชฤทธิ์ก็พบยาบ้าอีก
2108 เม็ดและยาไอซ์จำนวน 33 กรัม
ซุกซ่อนอยู่ในท่อพีวีซีสีฟ้าวางไว้บนพื้นดินในสวนปาล์มโดยเอาทางปาล์มมาปิด /
เพื่ออำพรางไว้และยังพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.หนึ่งกระบอกซองกระสุนปืนหนึ่งอัน กระสุนชนิดเดียวกัน 6 นัดและระเบิดแสวงเครื่องประดิษฐ์เองอีกสองลูก.
นายณรงค์พลละเอียดผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เผยสืบเนื่องจากการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย
และผู้ค้ารายย่อยได้มีการซัดทอดว่านายเดชฤทธิ์ เป็นคนจำหน่ายยาบ้า และยาไอซ์ให้ จากนั้นชุด
ฉก.โชคชัยกำลัง อส.และกำลังทหารจึงวางแผนก่อนบุกเข้าจับกุมนายเดชฤทธิ์ได้ในที่สุด
โดยนายเดชฤทธิ์ยอมรับสารภาพว่าซื้อยาบ้าและยาไอซ์ ทั้งหมดมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่แต่ยังไม่เคยถูกจับกลุ่มเพราะสามารถหลบเลี่ยงได้ตลอดอีกทั้งยังเป็นเครือข่ายผู้ค้ายารายใหญ่ในพื้นที่และนายเดชฤทธิ์มีภูมิลำเนาเดิมอาศัยอยู่อำเภอปากพนัง
จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งการบุกเข้าจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่ามีความเสี่ยงต่อการต่อสู้มากจึงขอสนับสนุนกำลังพลจากชุด
รส.มทบ.44 สนธิกำลังเข้าจับกุม
ธนากร โกศลเมธี รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น