นางสาว ภนิดา นพชำนาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน พร้อมคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน

นางสาว ภนิดา นพชำนาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน พร้อมคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน
ถวายพระพร

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ
ทิป บ๊อก สนับสนุน เว็บ Pages

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

"อธิรัฐ" นำทีมลงพื้นที่เกาะติดรับมือมวลน้ำอ.โนนสูง จ. นครราชสีมา พร้อมมอบถุงยังชีพให้คนในพื้นที่ 1,248 ครัวเรือน

 

"อธิรัฐ" นำทีมลงพื้นที่เกาะติดรับมือมวลน้ำอ.โนนสูง จ. นครราชสีมา พร้อมมอบถุงยังชีพให้คนในพื้นที่ 1,248 ครัวเรือน



 



 

วันที่ 30 กันยายน 2564 ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ส.ส.ทัศนียา​ รัตนเศรษฐ (เขต7​ จังหวัดนครราชสีมา) ส.ส.ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ (เขต4 จังหวัดนครราชสีมา) และนายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากมวลน้ำที่ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร อ.โนนไทย ไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.โนนสูง ซึ่งขณะนี้ระดับนำ้ในพื้นที่ยังคงท่วมสูงและมีประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก และวันนี้ได้นำเจ๊ทสกีพร้อมด้วยเรือท้องแบนนำของใช้ที่จำเป็นส่งมอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ และนำผู้ประสบภัยบางส่วนออกจากพื้นที่เพื่อส่งยังศูนย์อพยพ

    




จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จำนวน 1,284 ครัวเรือน ดังนี้

   บ้านหนองอ้อ ต.เมืองปราสาท จำนวน 217 ครัวเรือน

   บ้านโนนตะกั่ว ต.เมืองปราสาท จำนวน 46 ครัวเรือน

   บ้านเมืองที ต.เมืองปราสาท จำนวน 221 ครัวเรือน

   บ้านโค้งมะกอก ต.ปราสาท จำนวน 56 ครัวเรือน

   บ้านโนนคราม ต.ปราสาท จำนวน 62 ครัวเรือน

   บ้านคล้า ต.ปราสาท จำนวน 70 ครัวเรือน

   วัดบ้านปราสาท ต.ปราสาท จำนวน 128 ครัวเรือน

   บ้านโนนพัฒนา ต.ปราสาท จำนวน 292 ครัวเรือน

   วัดโนนตากลาง ต.ปราสาท จำนวน 192 ครัวเรือน

 



รับข่าวสาร กดติดตาม พรรคพลังประชารัฐ

เพื่ออัพเดท ข่าวสารของพรรคพลังประชารัฐ

https://twitter.com/pr_pprpthailand?s=11

https://www.blockdit.com/pprp

 

ธนากร โกศลเมธีรายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514

 

อนุโมทนาบุญได้ร่วมสร้าง พระพุทธมหากรุณาประชานาถและหลวงปู่ทวด ปลอดโรค ปลอดภัย พระพุทธมหากรุณาประชานาถ หลวงปู่ทวด รุ่นปลอดโรค ปลอดภัย๙๑๗

 

อนุโมทนาบุญได้ร่วมสร้าง พระพุทธมหากรุณาประชานาถและหลวงปู่ทวด ปลอดโรค ปลอดภัย

พระพุทธมหากรุณาประชานาถ

หลวงปู่ทวด รุ่นปลอดโรค ปลอดภัย๙๑๗





ประทานโดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก องค์ที่๒๐แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ประทานเป็นขวัญกำลังใจสู้ภัยโควิด๑๙

เมื่อวันที่๑๔สิงหาคม๒๕๖๔.

 






๑.สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

ประทานมวลสาร

แผ่นเงิน ทอง นาค จาร

๒.ธาตุกายสิทธิ์ (เหล็กไหล)คุณตาขุนพันธ์รักษ์ราชเดช คุ้มบารมี วังฉัตรแก้ว

๓.แผ่นทองเงินนาค จาก พระสุนทรปริวัติวิธานเจ้า   อาวาส วัดช้างให้ ต. โคกโพธิ์ ปัตตานี

๔.มวลสารทองเหลือง หลวงปู่ทวดวัดบางนอนจากพระอาจารย์บุญเยี่ยม พระครูสุนทร ปริยัติคุณ

๕. แผ่นทองเงินนาค จารพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนือ อิสาน

๖.เหล็กไหล หลวงปู่ศรีสุทโธ

๗.ทองล้นเบ้าพระพุทธสิหิงส์ 

 ๘.แผ่นทองจาร เจ้าคุณสุนทร วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง

๙.มวลสารสร้างหลวงปู่ทวด2531 พระครูเกษมธรรมธาดา วัด กม.7

๑๐.มวลสาร

เจ้าอาวาสวัดธาตุน้อย

พระครูถาวรพิสุทธิ์

ชนวนมวลสารพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์

๑๑.มวลสารพระธาตุเสด็จ

จากพระธาตุเกศแก้ว ณ คุ้มบารมี

วังฉัตรแก้ว

ท่านพระยาขุนพิเลนท์ สัตยาบริพัตร ฤทธิรอนนรราช

๑๒.ทองล้นเบ้า หลวงปู่ทวด

สร้าง ณ ที่แม่ไคร้ สันกำแพง

๑๓.ธาตุเกศ นพเก้า เก้ามงคล

คุ้มบารมี วังฉัตรแก้ว









๑๔.เพชรหน้าทั่ง

15.ผงอิฐแดงโบราณเจดีย์๙วัด

16.ผงผสมว่านพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี

17.ดอกไม้พระราชทาน

18.ว่านผสมพระพันปี

19.ผงปัทมังอิทธิเจ นิสิงเห พ่อท่านมุ้ยวัดป่าระกำ

20.ผงผสมว่าหลวงปู่ทวดปี2497

21.ผงแร่แดงหลวงปู่สุภา ภูเก็ต

22.ฉนวนมวลสารธาตุกายสิทธิ์ หลวงพ่อนวล ปริสุทฺโธ วัดไสหร้าทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช

23.มวลสารจตุคามรามเทพ รุ่นบัลลังค์ทรัพย์วัดถ้ำทองพรรณา นครศรีธรรมราช.

24.ไข่มุกถ้ำ

25.ผงผสมพ่อท่านแสงวัดตาชี จังหวัดยะลา

26.ผงจตุคามปี๓๐

27.ผงผสมว่านพ่อท่าน ทองวัดสำเภาเชย ปานาเระปัตตานี

28. มวลสารวัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช

29. ผงพระวัดเขาทอง

30. ผงดิน 1000 ปีถ้ำพระนอน วัดคูหาพิมุขจังหวัดยะลา

31. ผงโคตรเหล็กไหล

32. ไม้ไผ่ตัน

33. ว่านแดงพ่อท่านสิงห์ วัดลำพระยา จังหวัดยะลา

34. อุณกมณีดำ สะเก็ดดาว

35. ลูกธนูคนธรรณ์ถ้ำจังหวัดกระบี่

36. ผงทรายในถ้ำวัดพะโคะจังหวัดสงขลา

37. ผงว่านสาวหลงเดือนห้า

38. ผงผสมว่านหลวงพ่อแสง วัดในเตา จังหวัดตรัง

39. ผงผสมว่านพ่อท่านหวนปะนาเระจังหวัดปัตตานี

40. ผงผสมว่านหลวงปู่ทวดปีเก้าเจ็ด

41. ว่านผสมพระ 1000ปี

42. ดอกไม้พระราชทาน

43. ผงผสมว่านพ่อท่านเขียว วัดง้วยเงาะจังหวัดปัตตานี

44. ผงตะไบแต่งพระพุทธชินราช2485 วัดสุทัศน์

45. ผงเหล็กไหลและอิฐแดง9วัด

 








ธนากร โกศลเมธีรายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514

ส.ส.พปชร. “ทัศนียา - ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ“ ลุยมอบถุงยังชีพ ผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมพื้นที่โคราช

 

ส.ส.พปชร. ทัศนียา - ทวิรัฐ  รัตนเศรษฐลุยมอบถุงยังชีพ ผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมพื้นที่โคราช

 


นางสาว ทัศนียา  รัตนเศรษฐ ส.ส. เขต 7  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส. เขต 4  พปชร. จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทีมงานลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัยฯ จำนวน 987 ครัวเรือน

 

โดย แบ่งเป็นพื้นที่ บ้านโนนมันเทศ หมู่ที่ 7 ต.ใหม่ จำนวน 220 ครัวเรือน บ้านหนองโจด หมู่ที่ 6 ต.ใหม่ จำนวน 247 ครัวเรือน บ้านนาราดพัฒนา หมู่ที่ 5  ต.ลำมูล จำนวน 76 ครัวเรือน บ้านปารัง หมู่ที่ 1 ต.ลำมูล จำนวน 121 ครัวเรือน  และบ้านโนนทอง หมู่ที่ 2  ต.ลำมูล จำนวน 131 ครัวเรือน

 


ทางครอบครัวรัตนเศรษฐ และทีมงาน มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่โคราช  ที่ประสบอุทกภัย โดยพบว่า ในส่วน อำเภอโนนสูง มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนถูกน้ำท่วมบ้านเรือน จำนวน 7 ตำบล 21 หมู่บ้าน  และขณะนี้สถานการณ์น้ำยังทรงตัวและมีแนวโน้มสูงขึ้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้เก็บสิ่งของขึ้นพื้นที่สูง พร้อมทั้งให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เราจะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน อย่างเต็มที่  ส.ส.ทัศนียา และ ส.ส.ทวิรัฐ  รัตนเศรษฐ ร่วมกันยืนยันต่อพี่น้องประชาชนชาวอำเภอโนนสูง


 

สำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม สามารถติดต่อมาที่ศูนย์ประสานงาน บ้านรัตนเศรษฐโดยยินดีเป็นสื่อกลางสำหรับผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ  เพื่อประสานหน่วยงานของรัฐ อาทิ ฝ่ายปกครอง, อปท. เรื่องถุงยังชีพ ศูนย์อพยพ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครราชสีมา เรื่อง กำลังคน รถยนต์ เรือท้องแบน  สำนักงาน ปภ.  เรื่องกำลังคน รถ เรือ เครื่องจักรกล  เป็นต้น

 

โดยผู้ประสานงาน บ้านรัตนเศรษฐ  มีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อดังนี้

 1 .นายวรวุฒิ  ขอดจันทึก โทรฯ 0857754119

 2 .นายภัณฑบดี  ลิ้มโรจนวงศ์   โทรฯ 0971588940 

 3. นางสาวมนธิรา  กลิ่นหอม โทร 0643571698 

 4. นางสาวอมรรัตน์  ภักดีกลาง  โทรฯ   0841252217

และ  5. นายธิติพงศ์  สักลอ  โทรฯ  0644599458

โดยผู้ประสานทุกคนพร้อมดำเนินการติดต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อช่วยพี่น้องประชาชนทันที 

 


ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ  โดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วยร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังได้จัดตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม พรรคพลังประชารัฐ"  เพื่อเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในหลายจังหวัด 

 

โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร  02-0927861  จำนวน 30 คู่สาย เพื่อรองรับการขอความช่วยเหลือจากประชาชนต่อไป เบื้องต้น ได้ดำเนินการส่งมอบถุงยังชีพผ่าน ส.ส. ของพรรคฯ ในจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม ไปให้ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว

 

รับข่าวสาร กดติดตาม พรรคพลังประชารัฐ

เพื่ออัพเดท ข่าวสารของพรรคพลังประชารัฐ

https://twitter.com/pr_pprpthailand?s=11

https://www.blockdit.com/pprp

ธนากร โกศลเมธ๊รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514

วิริยะประกันภัย เปิดปฏิบัติการ FIRST AID เร่งกู้รถน้ำท่วม เบื้องต้นพบเสียหาย 777 คัน

 

วิริยะประกันภัย เปิดปฏิบัติการ FIRST AID เร่งกู้รถน้ำท่วม เบื้องต้นพบเสียหาย 777 คัน



 

วิริยะประกันภัย ระดมทัพศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนทั่วไทย รุด ปฏิบัติการ FIRST AID” กู้ซ่อมรถยนต์ในพื้นที่น้ำท่วม เหนือ-อีสาน-กลางเผยมีรถเอาประกันภัยไว้กับบริษัทฯ ได้รับความเสียหายกว่า 777 คัน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นกว่า 26 ล้านบาท

 

นายนที ไชยกาล ผู้จัดการฝ่ายมาตรฐานราคาและการจัดซ่อม บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยขึ้นในหลายจังหวัดอันเนื่องมาจากอิทธิพลของร่องมรสุมและพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ตามรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในช่วงวันที่ 23-29 ก.ย. 2564 เกิดอุทกภัยใน 30 จังหวัด ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด และยังคงมีอีก 17 จังหวัดที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ และบางพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังจากมวลน้ำที่สะสมที่อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันได้

 



วิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์ ซึ่งบริษัทฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้มีการสั่งการให้วิริยะจิตอาสา เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของพื้นที่นั้นๆ ส่วนความเสียหายด้านทรัพย์สิน โดยเฉพาะรถยนต์ที่ทำประกันภัยไว้กับบริษัทฯ ล่าสุด บริษัทฯ ได้มีการประชุมหารืออย่างเร่งด่วนถึงความพร้อมในการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยรถยนต์ พร้อมทั้งได้มีการกำชับสั่งการไปยังศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนทั่วประเทศ ในการเข้าไปให้ความดูแลลูกค้าอย่างรวดเร็วที่สุด

 

​ทั้งนี้ ตามรายงานของศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่เกิดน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม – 29 กันยายน 2564 มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้กว่า 777 คัน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นรวมเป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท โดยแยกเป็นความเสียหายมากสุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 477 คัน รองลงมาเป็นภาคตะวันออก 138 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 74 คัน ภาคกลางและภาคตะวันตก 44 คัน ภาคเหนือ 43 คัน และภาคใต้ 1 คัน

 

นายนที กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมรับมือกับวิกฤตดังกล่าวเป็นอย่างดี ด้วยมีความเชี่ยวชาญจากการนำโมเดลการ ปฏิบัติการ FIRST AID” มาใช้จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหัวใจหลักของระบบ First Aid อยู่ที่ความรวดเร็วในการฟื้นฟูหรือซ่อมแซม นำรถยนต์ออกจากน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ความเสียหายขยายตัวไปมากกว่าเดิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการอบรมพัฒนาเสริมสร้างความรู้ความชำนาญให้แก่พนักงาน รวมถึงพัฒนากระบวนการทำงานของปฏิบัติการ FIRST AID อยู่ตลอดเวลา จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหน และมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนที่มีอยู่ทุกทิศทั่วไทยก็สามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการสั่งการ

 


 

อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากว่าการประสบเหตุอุทกภัยในครั้งก่อนๆ เพราะปัจจุบัน บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบบริการเคลมสินไหมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะระบบ Viriyah Smart Claim  (VSC) อันเป็นการนำสมาร์ทโฟนมาผสานการทำงานร่วมกันกับแผนที่นำทาง Google Map จึงช่วยให้บริษัทฯ สามารถรู้พิกัดจากการรับแจ้งเหตุโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังช่วยบริหารจัดการการมอบหมายงานและบ่งบอกสถานะการทำงานของพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุ จึงมั่นใจได้ว่าผู้เอาประกันภัยจะได้รับการบริการได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลูกค้าสัมพันธ์ 1557 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว

ธนากร โกศลเมธีรายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564

ชุมพร - สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชุมพรลงพื้นที่การเฝ้าระวังการทุจริตและตรวจติดตามผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตด้านทรัพยากรสาธารณะ

 ชุมพร - สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชุมพรลงพื้นที่การเฝ้าระวังการทุจริตและตรวจติดตามผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตด้านทรัพยากรสาธารณะ

วันที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น.    นายคมสันต์ จันทร์รอด ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชุมพร นางพันธ์ทิพย์  เอี้ยวสกุล  ประธานชมรม STRONG จังหวัดชุมพร นายยุทธชัย จิตอารีรัตน์ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร นางสายสุดใจ ชุนเชาวฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร   นางสาวพิชามญช์ นวลมี เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ  นางสาวสิริญญา พุ่มคง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ที่เทศบาลตำบลท่ายาง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพรโดนมี นายสุทธิพงษ์ บุญโยธิน ปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลท่ายางให้การต้อนรับคณะที่เดินทางมาในวันนี้



นายคมสันต์ จันทร์รอด กล่าวว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชุมพรดำเนินโครงการขับเคลื่อนและบูรณาการติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตด้านทรัพยากรสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ตามนโยบายคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยดำเนินกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติฯ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ณ โรงแรมออฟท์มาเนีย บูติค โฮเทล อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ในวันที่ 29 กันยายน 2564 กำหนดดำเนินกิจกรรมการลงพื้นที่ติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้การดำเนินการตามมาตรการฯ ในระดับพื้นที่ มีการปฏิบัติและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการรวบรวมปัญหา และอุปสรรคในการปฏิบัติงาน เพื่อเสนอข้อมูล สู่การปรับปรุงแก้ไข หรือเสนอแนะแนวทางในการดำเนินงานต่อไป

ธนากร โกศลเมธีรายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514

"บิ๊กป้อม" ตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม เปิดสายด่วน สั่ง ส.ส.ลุยแจกถุงยังชีพถึงมือประชาชน อย่างเร่งด่วน

  "บิ๊กป้อม" ตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม เปิดสายด่วน สั่ง ส.ส.ลุยแจกถุงยังชีพถึงมือประชาชน อย่างเร่งด่วน                


      

วันนี้ 29 กันยายน 2564  พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วยร้อยเอก ธรรมนัส   พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้จัดตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม พรรคพลังประชารัฐ" เพื่อเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างในพื้นที่หลายจังหวัด พร้อมกันนี้พรรคฯ ยังได้เตรียมถุงยังชีพเพื่อมอบให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรค พปชร.ไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ จำนวนคนละ 1,000 ถุง  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

                   



                                                “ทางพรรคฯ ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้ประสบภัยในครั้งนี้ ผมได้หารือกับท่านหัวหน้าพรรค และท่านหัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้เร่งจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม 

โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์  02-0927861    ซึ่งจะเป็นเบอร์โทร 30 คู่สาย ในการรองรับการขอความช่วยเหลือของประชาชนอย่างทันท่วงที                                                                




นอกจากนี้พรรคฯ ยังได้มอบให้ ส.ส. พปชร. ติดตามสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ของตนเองอย่างใกล้ชิดและให้เตรียมพร้อมในการนำถุงยังชีพที่พรรคจะส่งมอบไปให้ส.ส.ทุกคนจำนวน 1,000 ถุงต่อคน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนที่ขณะนี้ไม่สามารถสัญจรออกจากพื้นที่ได้ มีบางส่วนต้องอาศัยอยู่ในบ้าน ทำให้ประสบปัญหาในการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก" ร.อ.ธรรมนัสฯ กล่าว  


รับข่าวสาร กดติดตาม พรรคพลังประชารัฐ 

เพื่ออัพเดท ข่าวสารของพรรคพลังประชารัฐ ✍️

https://twitter.com/pr_pprpthailand?s=11

https://www.blockdit.com/pprp


 


“จุติ ไกรฤกษ์” รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ ที่ปรึกษาสมเด็จอัครเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา

 “จุติ ไกรฤกษ์”  รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ ที่ปรึกษาสมเด็จอัครเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา 




วันอังคารที่ 28 กันยายน 2564 เวลา 15.00 น. ณ ห้องรับรอง ชั้น 9 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทาวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ Dr. H.E. Sok Sokrethya ที่ปรึกษาส่วนตัว นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือถึงแนวทางความร่วมมือด้านงานพัฒนาสังคม



เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลของสองประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักการเมืองรุ่นใหม่ของกัมพูชากับของประเทศไทย ตลอดจนเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแสวงหาความร่วมมือในด้านต่างๆในช่วงที่ทั้งสองประเทศเกิดโรคระบาดโควิด และหลังจากสถานการณ์โควิดผ่านไปแล้วด้วย



รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวต้อนรับ ด้วยความอบอุ่นและขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการท่องเที่ยวจากกัมพูชาที่ให้เกียรติมาเยือนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในวันนี้ ท่านหวังว่าความสัมพันธ์ที่ดีของสองประเทศจะเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป



รัฐมนตรีจากกัมพูชา ได้กล่าวในนามของรัฐบาลกัมพูชาว่า รัฐบาลกัมพูชาใคร่ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ได้ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในด้านต่างๆ แก่รัฐบาลกัมพูชาด้วยดีมาโดยตลอด


Dr. Sok Sokrethya ได้เรียนเพิ่มเติมว่า ท่านนายกรัฐมนตรี สมเด็จฯ ฮุนเซน มีนโยบายส่งเสริมให้คนรุ่นหนุ่มสาวได้เข้ามาเป็นผู้บริหารบ้านเมืองทั้งในระบบราชการและในภาคการเมืองมากยิ่งขึ้น ตนเองในฐานะที่ท่านเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังเรียนรู้เรื่องการเมือง จึงมาขอเรียนรู้ประสบการณ์ทางการเมืองจากท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน


ภายหลังจากการหารือกันอย่างกระชับ ท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของไทย ได้เสนอเรื่องความร่วมมือสามด้านระหว่างประเทศไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา ดังนี้คือ


1. เรื่องของการแยกขยะที่ใช้แล้วซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน การมีอาชีพแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและคนจน และการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนโดยจะให้องค์กรเอกชนเข้าไปให้คำแนะนำ


2.การส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างสภาเยาวชนไทยกับสภาเยาวชนของกัมพูชา เพื่อให้เยาวชนของสองประเทศสามารถ พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการเยี่ยมเยียนกันระหว่างเยาวชนสองประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนสองประเทศในระยะยาวมากยิ่งขึ้น


3.การให้ความรู้และประสบการณ์ของการเคหะแห่งชาติเรื่องการจัดสร้างบ้านให้แก่ผู้มีรายได้น้อย 


นายจุติ ไกรฤกษ์ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติของไทยมีประสบการณ์ที่สั่งสมมานานตามสมควร ทั้งที่เป็นจุดอ่อนและเป็นจุดแข็ง การเคหะแห่งชาติได้มีการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยดีขึ้น


ทั้งเรื่องขนาดของบ้านและราคา ในปัจจุบันบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยของการเคหะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและราคาถูกลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด การเคหะแห่งชาติมีนโยบายให้คนมีรายได้น้อยได้สามารถเช่าบ้านจากการเคหะแห่งชาติได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และหากผู้เช่ามีรายได้ดีขึ้นก็สามารถที่จะขอเปลี่ยนเป็นซื้อแทนได้


นายจุติ ไกรฤกษ์ ยังได้กล่าว ยกย่องราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าเป็นประเทศที่มีมรดกทางอารยธรรมที่เก่าแก่และมีโบราณสถานทางประวัติศาสตร์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศไทยไม่อาจเปรียบเทียบได้เลย

สำหรับกัมพูชาแล้ว มีความเห็นว่าการสร้างพิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ของกัมพูชาเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยกัมพูชาอาจเรียนรู้และศึกษาจากประสบการณ์การสร้างพิพิธภัณฑ์อย่างยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับกัมพูชาเป็นอย่างยิ่งทั้งในปัจจุบันและอนาคต


นอกจากนี้ ท่านรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังเห็นว่าสำหรับนโยบายด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา ซึ่งกำลังเริ่มต้นจะมีข้อได้เปรียบ เพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของไทยที่ผ่านมาทั้งด้านบวกและด้านลบ 


การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ของกัมพูชาควรสนใจการดูแลรักษาแหล่งต้นน้ำตามธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาไทยเรายังมีจุดอ่อน ท่านมั่นใจว่ากัมพูชาน่าจะสามารถทำได้ดีกว่าประเทศไทยเนื่องจากมีประสบการณ์จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวประเภทนี้ในกัมพูชาจะเป็นประโยชน์และความสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวฝรั่งเศส


นายจุติ ไกรฤกษ์ ได้เสนอแนะในเรื่องการท่องเที่ยว ว่า กัมพูชาควรส่งเสริมเรื่องการทำอาหารฝรั่งเศสและอาหารพื้นเมืองของกัมพูชาควบคู่กันไป และน่าจะเป็นจุดแข็งอีกจุดหนึ่งของนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกัมพูชา ด้วย


บรรยากาศช่วงท้าย รัฐมนตรีทั้งสองท่าน ได้จับมือแสดงความเป็นมิตรแท้ของประเทศบ้านพี่เมืองน้องที่จะร่วมมือกันสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ทั้งสองประเทศไปพร้อมๆ กัน

ชุมพร - พิธีเททองหล่อ นางกวัก แม่ร่ำรวย ณ สำนักสงฆ์สวนเพชร

 ชุมพร - พิธีเททองหล่อ นางกวัก แม่ร่ำรวย ณ สำนักสงฆ์สวนเพชร วันที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 13.39 น นายวิสาห์ พูลภศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุ...