ชุมพรออนไลน์ นิวส์: กันยายน 2016

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

วันที่ 28 กันยายน 2559 กิจกรรมจิบกาแฟยามเช้า พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

จังหวัดชุมพร จัดกิจกรรมจิบกาแฟยามเช้า ณ ศาลากลางจังหวัดชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยมีนายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางอารุณี คชายั่งยืน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้สื่อข่าว ร่วมจิบกาแฟ และรับประทานอาหารว่างยามเช้า พร้อมกับพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดเป็นประจำทุกเดือน โดยจะผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพตามแต่ละหน่วยงานแบ่งตามกระทรวง ร่วมกันจัด

สำหรับกิจกรรมจิบกาแฟยามเช้าจัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้จักซึ่งกันและกัน ระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานราชการในจังหวัดชุมพร ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสานความร่วมมือซึ่งกันและกัน ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยกิจกรรมดังกล่าวมาจากแนวความคิดของ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ที่ต้องการให้หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน ร่วมไปถึงสื่อมวลชนในพื้นที่ได้พบปะพูดคุยกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์ถึงข้อมูลข่าวสาร ภารกิจหน้าที่ ร่วมไปถึงโครงการต่างๆ ให้หน่วยงานอื่นได้รับทราบ เพื่อง่ายต่อการประสานความร่วมมือ

ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้กล่าวลาพร้อมกับขอบคุณ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความขยันตั้งใจ และเอาใจใส่ต่องานในหน้าที่รับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ก่อนพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เนื่องจากครบกำหนดอายุราชการ ซึ่งจะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2559 โดยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ได้มีการมอบดอกไม้เพื่อแสดงมุทิตาจิต แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร อีกด้วย

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

วันที่ 21 กันยายน 2559 ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจบ้านพละ จังหวัดชุมพร

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจบ้านพละ จังหวัดชุมพร

วันที่ 21 กันยายน 2559 ที่ ด่านตรวจบ้านพละ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร พลตำรวจโท พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ พร้อมกับมอบเหรียญพ่อทวด รุ่นชนะมาร แก่ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นที่ยึดเหนียวจิตใจ และความเป็นสิริมงคล ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ของข้าราชการตำรวจประจำด่านตรวจบ้านพละ โดยเหรียญพ่อทวด ดังกล่าว ปลุกเสกและทำพิธี ที่ อุโบสถวัดพะโคะ และได้อัญเชิญ ลูกแก้ววิเศษ กับไม้เท้า ของหลวงปู่ทวด มาร่วมพิธีพุทธาภิเษก

สำหรับด่านตรวจบ้านพละ ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ระหว่าง กม.ที่ 429 - 430 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาไยราช อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ได้รับอนุมัติจากกรมทางหลวง โดยให้ตำรวจภูธร ภาค 8 กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ การตั้งด่านตรวจถาวรของกรมทางหลวง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะ ยาเสพติด บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง การโจรกรรมรถ อาวุธปืน อาวุธสงครามโดยผิดกฎหมาย และตัดโอกาสในการก่ออาชญากรรมของคนร้าย นอกจากนี้ยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ผู้สัญจรไปมาบนถนนเพชรเกษม ซึ่งด่านตรวจบ้านพละมีผลงานการจับกุมคดียาเสพติดข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย ที่โดดเด่นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงปัจจุบัน ที่เป็นคดีสำคัญ จับกุมข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย 26 ราย รวมผู้ต้องหา 75 คน ของกลาง ยาบ้าจำนวน 5,476,511 เม็ด ไอซ์จำนวน 7 กิโลกรัม กัญชาจำนวน 3,565 กิโลกรัม

พลตำรวจโท พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและชื่นชมกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจบ้านพละ ซึ่งเป็นด่านตรวจที่สำคัญของตำรวจภูธร ภาค 8 มีผลการจับกุมคดียาเสพติดเป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ก็ธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่เจ้าหน้าที่มีความใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่หัวหน้าด่าน ถึงผู้ปฏิบัติ และนอกจากนี้ยังมีไหวพริบปฏิภาณ นำไปสู้การปฏิบัติงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทางตำรวจแห่งชาติได้เตรียมเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ แก่เจ้าหน้าที่ รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ต่อไป

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

วันที่ 16 กันยายน 2559 แถลงการจัดงานมหกรรมนกเต็มฟ้า ปลาเต็มทะเล "งานเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพและฟิตชิ่งเกมส์" ในวันที่ 8-9 ตุลาคม2559

วันที่ 16 กันยายน 2559 เวลา 10.00 น. แถลงข่าว กิจกรรมงานขึ้นเขา ชมเหยี่ยว เที่ยวทะเล อ่าวบางสน ประจำปี 2559 ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง มหกรรมนกเต็มฟ้า ปลาเต็มทะเล "งานเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพและฟิตชิ่งเกมส์" การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกแนวคิด "ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" สร้างประสบการที่แตกต่าง

นายประวิตร พุ่มสุวรรณ นายกเทศมนตรีบางสน และนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว เป็นประธานร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “ขึ้นเขา ชมเหยี่ยว เที่ยวทะเล อ่าวบางสน” ประจำปี 2559 ซึ่งมีกำหนดจัดในวันที่ 8 – 9 ตุลาคม 2559 แต่การชมเหยี่ยวอพยพ สามารถชมได้ตลอดทั้งเดือนถึงสองเดือน คือ ต.ค.-พ.ย. 59 ตำบลบางสนมีจุดชมวิวเขาดินสอ ซึ่งเป็นจุดชมเหยี่ยวอพยพในทุก ๆ ปี โดยเป็นจุดที่สามารถชมเหยี่ยวได้ชัดที่สุดและเหยี่ยวมีการบินผ่านบริเวณนี้มากที่สุด เป็นที่สนใจของนักดูนกทั่วประเทศและในแต่ละปีจะมีทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก

กิจกรรมภายในงานของปีนี้ ทางเทศบาลตำบลบางสน และสำนักงานปกครองอำเภอปะทิว ร่วมกับ ททท. โดย คุณวิริยา แก่นแก้ว ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดชุมพร – ระนอง ,บริษัทไทยยูเนี่ยนฟู๊ด ,ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ซึ่งในช่วงวันที่ 8 – 9 ตุลาคม 2559 นั้น ทางองค์กรผู้จัดได้วางแผนกิจกรรมการจัดงานไว้หลากหลาย อาทิ กิจกรรมการแสดงบนเวที , การประกวดวาดภาพระบายสี,การประกวดภาพถ่าย การประกวดออกแบบร้านค้าชุมชน นิทรรศการขององค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กิจกรรมการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแข่งขันการตกปลาซึ่งจัดบริเวณชายหาดอ่าวบางสน โดยจะมีการปล่อยเรือที่เข้าแข่งขันออกไปตกปลา (มีการกำหนดเวลาออกและเข้า พร้อมตัดสินจากปลาที่ได้จากการตก) และปลาที่ได้จากการตกนำไปให้กับกลุ่มแม่บ้านแข่งขันประกวดการทำอาหารทะเลเมนูต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งปีที่ผ่านมาที่เคยจัดมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ได้รับการตอบรับจากชุมชนเป็นจำนวนมากทำให้กิจกรรมดังกล่าวต้องจัดต่อเนื่องมาทุก ๆ ปี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริมอื่น ๆ อีกมากมายเช่นเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพเขาดินสอกิจกรรมแข่งขันตกปลา กิจกรรมวาดภาพ กิจกรรมปักหมุดหยุดเวลา

การล่องแพชมทัศนียภาพป่าชายเลนคลองบางสน การลอกใบจาก กิจกรรมตกปลาทราย ลิ้มรสอาหารทะเลสดๆชายฝั่ง และ ชิม ช๊อป ชม

การจัดงานในครั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกแนวคิด "ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" สร้างประสบการที่แตกต่าง มหกรรมนกเต็มฟ้า ปลาเต็มทะเล "งานเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพและฟิตชิ่งเกมส์"

เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้อำเภอปะทิวเป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และมุมมองในภาพลักษณ์ของสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายจะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น