ชุมพร - กำจัดปลาหมอสีคางดำ
"สวีโมเดล"
กรมประมงร่วมกับชมรบอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามลุ่มน้ำสวี จัดกิจกรรมกำจัด
"หมอสีคางดำ"เดินหน้าตัดวงจรชีวิตหลังพบแพร่ระบาดทั้งในบ่อเลี้ยงและธรรมชาติ
วันที่ 11 พฤษภาคม 2561 เวลา 09.00น. ณ
ชมรมอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามลุ่มน้ำสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร นายอรุณชัย พุทธเจริญ
รองอธิบดีกรมประมง
เป็นประธานจัดกิจกรรมชาวชุมพรร่วมใจขจัดภัยปลาหมอสีคางดำ(รักษ์ลุ่มน้ำสวี)
เพื่อกำจัดปลาหมอสีคางดำหลังที่ได้พบว่าเกษตรได้รับความเดือดร้อน จากการแพร่ระบาด
นายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า
จากกรณีพบปลาหมอสีคางดำแพร่กระจายพันธ์ในบ่อเลี้ยงของเกษตรกรสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากให้กับผู้เลี้ยงปลาและกุ้ง
กรมประมงได้ออกคำสั่งที่223/2561 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561
แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำโดยเฉพาะนอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดที่พบมีการแพร่ระบาด
กรมประมงได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่รับฟังข้อคิดเห็นของเกษตรกรชาวประมง
และชุมชนเพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เพื่อหยุดวงจรการแพร่ระบาดของปลาสายพันธุ์นี้ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร
และทำลายสัตว์น้ำพื้นถิ่นของประเทศ
กรมประมงและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการออกประกาศ ลงวันที่ 9 มกราคม
2561 เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า และส่งออก นำผ่าน หรือเพาะเลี้ยง
พ.ศ.2561 มารองรับการปฏิบัติ สำหรับสัตว์น้ำ 3 ชนิดพันธุ์ที่ห้าม ตามประกาศ ได้แก่
ปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน และปลาหมอบัตเตอร์ และมีแนวทางดังนี้
กรณีที่เกษตรกรที่เลี้ยงปลาทั้ง 3 ชนิดในบ่อเพาะเลี้ยง
ให้รีบนำปลาดังกล่าวส่งมอบให้เจ้าหน้าที่กรมประมงโดยด่วน
กรณีที่ประชาชนทำการประมงแล้วได้ปลาทั้ง 3 ชนิดนี้ในแหล่งธรรมชาติ
ประชาชนสามารถนำไปบริโภคหรือจำหน่ายได้
แต่ควรทำให้ปลาตายก่อนนำไปจำหน่าย
กรณีปลาทั้ง 3 ชนิด
จากธรรมชาติหลุดรอดเข้าในบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรโดยไม่เจตนาเกษตรกรสามารถนำไปจำหน่ายหรือบริโภคได้
แต่ควรทำให้ปลาตายก่อนนำไปจำหน่าย กรณีส่วยราชการ สถาบันการศึกษา
หรืกรณีจำเป็นอื่นใดที่เพาะเลี้ยงปลาทั้ง 3 ชนิด ไว้เพื่อศึกษาวิจัย
และประโยชน์ทางราชการให้แจ้งขออนุญาตกรมประมงต่อไป และห้ามผู้ใดปล่อยปลาทั้ง 3
ชนิด ลงในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความผิดตามมาตรา 144 แห่ง
พรก.การประมง 2558
จังหวัดชุมพรจัดเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่พบว่ามีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ และกรมประมงจึงจัดกิจกรรมชาวชุมพรร่วมใจ
ขจัดภัยหมอสีคางดำ(รักษ์ลุ่มน้ำสวี)
เพื่อกำจัดวงจรชีวิตการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในจังหวัดชุมพร อย่างยังยืนต่อไป
นายสง่า ลีสง่า
ผู้อำนวยการกองวิจัย และพัฒนาประมงน้ำจืด กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ทางกรมประมงได้เตรียมลูกพันธุ์ปลากะพงไว้สำหรับปล่อยลงในแหล่งน้ำธรรมชาติและมอบให้เกษตรกรนำไปปล่อยในบ่อเลี้ยงของตนเองเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดในบ่อเลี้ยง อีกทั้งได้มอบเกียรติบัตรแก่ชมรมอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามสวีเนื่องจากทางชมรทฯ
ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
ในการจับสัตว์น้ำต่างถิ่นในพื้นที่ของตนมาตลอด
สำหรับบทลงโทษหากพบผู้ใดฝ่าฝืน ลักลอบนำปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน
ปลาหมอบัตเตอร์ เข้ามาในราชอาณาจักร ต้องระวางโทษตามมาตรา 144
แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558
จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และกรณีผู้กระทำความผิดนำสัตว์น้ำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน
2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฝากถึงผู้กระทำความผิด
กรมประมงมีบทลงโทษรุนแรงมากครับ
ธนากร โกศลเมธี รายงาน / ชุมพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น