นางสาว ภนิดา นพชำนาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน พร้อมคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน

นางสาว ภนิดา นพชำนาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน พร้อมคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน
ถวายพระพร

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ
ทิป บ๊อก สนับสนุน เว็บ Pages

วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ชุมพร - ถูกมือดีย่องวางยาต้นทุเรียน 20 ต้น ทยอย ตาย -  ผลร่วง เสียหายกว่า30ล้านเจ้าของสวนทุเรียนเล่าทั้งน้ำตาคลอ

 ชุมพร - ถูกมือดีย่องวางยาต้นทุเรียน 20 ต้น ทยอย ตาย -  ผลร่วง เสียหายกว่า30ล้านเจ้าของสวนทุเรียนเล่าทั้งน้ำตาคลอ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายชรินทร์  เผื่อชัย  อายุ 51 ปี และภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 157/3 หมู่ 10 บ้านสะพาน5 ตำบลหาดพันไกร อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เจ้าของสวนทุเรียน ว่ามีมือดีย่องวางยาต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ส่งผลทำให้ทยอยยืนต้นตายและผลร่วงเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายรวมถึงอายุในการเก็บเกี่ยวอีกหลายปีเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท



       ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงความเสียหายพบว่าสวนทุเรียนและบ้านพักดังกล่าวอยู่ห่างจากถนนสายเพชรเกษมประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีนายชรินทร์ และภรรยา พาเดินไปยังสวนทุเรียนแปลงเกิดเหตุที่ถูกมือดีย่องวางยาเพื่อให้เกิดความเสียหาย พบเป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองอายุประมาณ 6-7 ปี จำนวน 25 ต้น ตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด 20 ต้น สภาพแต่ละต้นมีรอยลักษณะใช้มีดหรือของมีคมฟันโคนต้นเพื่อให้เกิดแผลมีรอยดำ  ลำต้นใบเริ่มแห้งหลุดร่วง บางต้นใบร่วงเหลือแต่กิ่ง ส่วนผลทยอยร่วงมากองอยู่ใต้ต้นโดยมีคั่วยังติดอยู่กับกิ่ง

นายชรินทร์  เจ้าของสวนทุเรียน เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา บุตรของตนบอกว่าพบงูในสวนทุเรียน จึงใช้ไม้ไผ่ไปเขี่ยหางู บังเอิญไปเขี่ยใบหญ้าแห้งใต้ต้นทุเรียนพบรอยสีดำที่ไม่ใช่เชื้อรา เลยเอามือแหวกดู เจอรอยบากจึงมั่นใจว่าถูกวางยา เป็นยาฆ่าตอต้นไม้ชนิดยาดูดซึม ถ้าโดนยาตัวนี้แล้วใช้น้ำรดทุเรียนก็จะตาย  หลังจากนั้นเดินสำรวจทุกต้นทั้งแปลงรวม 25 ต้น เจอถูกวางยา 20 ต้น เป็นต้นทุเรียนที่มีผลทั้งหมด

โดยตนหวังว่าปีนี้อีกประมาณเดือนกว่าๆก็จะเก็บผลผลิตจำน่ายได้กิโลละ 160-180 บาท รายได้อย่างน้อยรับ 600,000 บาท  ทุเรียนโดยเฉลี่ยขายผลได้ต้นละ 20,000 บาท อายุต้นประมาณ 50 ปี เห็นเงินล้านใส่กระเป๋าถึงอนาคตอาจไม่ได้ใช้เงินเองลูกหลานก็ได้ใช้  20 ต้นที่เสียหายไปรวมๆรายได้ภายใน 50 ปีนี้เป็นเงินที่สูญไปประมาณ 30 ล้านบาท (พูดจบนายชรินทร์ถึงกับน้ำตาคลอ)

นายชรินทร์  เจ้าของสวน เล่าต่อว่า โดยส่วนตัวตนและครอบครัวไม่มีความขัดแย้งกับใคร   เดิมตนเป็นคนที่อื่น มาอาศัยอยู่กับแฟนในพื้นที่ประมาณ 8-10 ปี เพื่อนบ้านกับตนมีความสนิทสนมกันดี ถามคนในหมู่บ้านได้เลยตนมีแต่ความรัก มีแต่ให้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้น โดยคนทำก็น่าจะคิดสักนิดว่าทำแล้วมันแก้ไม่ได้   เมื่อเกิดขึ้นแล้วถ้ามีหน่วยงานไหนสามารถแก้ไขช่วยทำให้ต้นทุเรียนฟื้นได้ตนเองยินดี  แต่เชื้อว่าต้นทุเรียนทั้งหมดตายแน่นอน เพราะถูกวางยาดูดซึมชนิดร้ายแรง พร้อมทั้งได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว

เจ้าของสวน ฝากบอกถึงคนที่วางยาว่า  “ทุกคนเวลาทำสวนมันเหนื่อย ลงทุนเยอะด้วย ใช้เวลา ปลูกทุเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นเรื่องที่ยากต้องเจอปัญหาทุกรอบ ทุกเดือน ถ้าเป็นคุณคิดว่าถูกไหมที่ทำแบบนี้ ผมให้อภัยได้ถ้ามาสารภาพกับตน นิสัยคนเราแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ไม่ติดตัวไปตลอดหรอก ถ้าเราตั้งใจจะแก้มันไม่ใช้เรื่องยากครับ” นายชรินทร์ ฝากข้อคิดให้กับผู้วางยาทุเรียน

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชุมพร - สำรวจแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง

 ชุมพร - สำรวจแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง หลายฝ่ายเข้าสำรวจแหล่งน้ำ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจา...