นางสาว ภนิดา นพชำนาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน พร้อมคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน

นางสาว ภนิดา นพชำนาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน พร้อมคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน
ถวายพระพร

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ
ทิป บ๊อก สนับสนุน เว็บ Pages

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

"ธรรมนัส"รมว.เกษตรฯ ลุยชุมพร ประกาศ มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ วางไข่  เลี้ยงตัวอ่อนอ่าวไทย(ปิดอ่าว) ปี 67

 "ธรรมนัส"รมว.เกษตรฯ ลุยชุมพร นำร่องมอบที่ดินทำกินให้เกษตรกร ประกาศ มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ วางไข่  เลี้ยงตัวอ่อนอ่าวไทย(ปิดอ่าว) ปี 67

กรมประมงจัดพิธีประกาศปิดอ่าวไทย ปี 67 เผยผลจับปลาทูปี 66 เพิ่มขึ้นกว่า 5,600 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท

วันนี้ (14 ก.พ. 67) ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทยประจำปี 2567 ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์​ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์พร้อมปล่อยเรือตรวจการเพื่อออกปฏิบัติการปกป้องแหล่งวางไข่และอาศัยเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำในทะเลอ่าวไทย โดยมี นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หน่วยงานราชการในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องชาวประมง และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรม ณ ท่าเทียบเรือประมงชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร



นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2567 ยังคงเป็นมาตรการที่กรมประมงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ครอบคลุมพื้นที่บริเวณอ่าวไทย โดยแบ่งเป็นบริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง 2 ช่วงระยะเวลา ได้แก่ ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม -14 มิถุนายน 2567 ในบริเวณอาณาเขตตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่องตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวประจวบ และบริเวณพื้นที่อ่าวไทยรูปตัว ก และระยะที่2 ช่วงระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน - 15 สิงหาคม 2567 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในฝั่งตะวันตกของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร และระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 30 กันยายน 2567 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในด้านเหนือของจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำฝั่งทะเลอ่าวไทยซึ่งเป็นแหล่งวางไข่และอาศัยเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำหลายชนิด ด้วยการคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มีความสมบูรณ์เพศพร้อมผสมพันธุ์วางไข่ และปกป้องสัตว์น้ำวัยอ่อนให้มีโอกาสเจริญเติบโตเป็นสัตว์น้ำรุ่นต่อไป

ซึ่งจากผลการดำเนินมาตรการฯ ในปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่าปริมาณการจับปลาทูในอ่าวไทยมีปริมาณมากถึง 41,310 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,316.57 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 5,602 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 659.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ของปริมาณการจับ (ปี 2565 ปริมาณ 35,708 ตัน มูลค่า 2,657.49 ล้านบาท) และพบว่าพ่อแม่ปลาทูมีความสมบูรณ์ในอัตราที่สูงเกือบร้อยละ 100 อีกทั้งยังพบการแพร่กระจายของลูกปลาทู-ปลาลังและสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดอื่นในพื้นที่ที่ประกาศใช้มาตรการ จึงเป็นการยืนยันได้ว่ามาตรการฯ ที่ใช้มีความสอดคล้อง ถูกต้อง และเหมาะสมทั้งในด้านพื้นที่ ช่วงเวลา และเครื่องมือที่มีการประกาศใช้มาตรการๆ

อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า "มาตรการปิดอ่าวไทย" ถือเป็นภารกิจหลักที่กรมประมงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องชาวประมงในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำอย่างคุ้มค่า สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการส่งเสริมและเร่งฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งอาชีพชาวประมงให้กินดี อยู่ดีและมีรายได้อย่างยั่งยืน

 

สำหรับงานในวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์​ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการประกาศใช้มาตรการฯ และปล่อยเรือตรวจการออกปฏิบัติการ และได้มอบแผ่นป้ายเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนประมง (กิจกรรมพัฒนาอาชีพชุมชนประมง) ประจำปี 2567 ให้แก่ประธานองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น 9 ชุมชนในเขตจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และประจวบคีรีขันธ์ มอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร (สปก.) ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ จำนวน 50 ราย มอบหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นจดทะเบียนเรือไทย สำหรับเรือประมงพื้นบ้าน และร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 654,000 ตัว เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์และเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทย นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการนำเสนอข้อมูลความรู้ทางด้านประมงที่เกี่ยวข้องกับมาตรการฯอาทิ ผลงานวิชาการสำรวจข้อมูลสัตว์น้ำ มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทยการจดทะเบียนเรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ กิจกรรมขยะทะเลคืนฝั่งทะเลสวยด้วยมือเรา การควบคุมการทำประมงในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ นิทรรศการสิ่งมีชีวิต การบริหารจัดการทรัพยากรปูม้า ตลอดจนการแปรรูปสัตว์น้ำและจัดแสดงสินค้าประมงธงเขียว เป็นต้น

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชุมพร - สำรวจแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง

 ชุมพร - สำรวจแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง หลายฝ่ายเข้าสำรวจแหล่งน้ำ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจา...