เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 11 ตุลาคม 2560 ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดชุมพรที่1 ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นายณรงค์ พลละเอียดผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายชัยสิทธิ์พาณิชย์พงศ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายประจินต์ ธารศิริสินปลัดจังหวัดชุมพรเจ้าหน้าที่งานชุดจับกลุ่มนำโดย จ.ส.ต.ธิติวัชร บุญกิจ ป้องกันจังหวัดชุมพร ผบ.ร้อย อส.จังหวัดชุมพรที่หนึ่ง หัวหน้าชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด คือนายกมล หรือเอก รัตนจันทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 7 ตำบลท่าหิน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร พร้อมของกลาง 1.ยาบ้าจำนวน 2,768 เม็ด 2.อาวุธปืนสั้นชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม.(มีทะเบียน)จำนวน 1 กระบอก 3.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีแดง ทะเบียน 1 กก 2778 ชุมพร จำนวน 1 คัน 4.รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นเซฟิโร่ สีขาว ทะเบียน กจ 2747 ชุมพร จำนวน 1 คัน และสร้อยข้อมือโลหะคล้อยทอง น้ำหนักประมาณ 45.33 กรัมจำนวน 1 เส้น โดยแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง(ฉก.โชคชัย)ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายอนุชา หรือเอฟ นุ่นแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 15 ตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าให้กับผู้เสพในพื้นที่ตำบลท่าข้ามและตำบลใกล้เคียงจึงวางแผนเข้าจับกุมตัวได้ที่ขนำมุงสังกะสีเปิดเป็นค่ายเลี้ยงไก่ชน “เพชรลานทอง” ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 151 เม็ด และพืชใบกระท่อมน้ำหนักรวม 27 กิโลกรัม
โดยกล่าวหาว่านายอนุชา หรือเอฟ มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 และได้รับสารภาพว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยซัดทอดว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวได้รับมาจากนายกมลเดช หรือเอก(ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นผู้ค้าในพื้นที่อำเภอสวี ต่อมาวันที่ 9 ตุลาคม เวลาประมาณ 16.30 น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดชุมพรได้ควบคุมตัวนายอนุชา หรือเอฟ เป็นสายติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายกมลเดชโดยนัดรับของกันที่หลังโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในตำบลท่าหินแต่นายอนุชาไหวตัวทันจึงวิ่งหนีเข้าในสวนปาล์มน้ำมันแต่ไม่รอดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสามารถวิ่งติดตามจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 400 เม็ดซุกไว้ในกางเกงใน
ต่อมานายกมลเดชฯยังรับสารภาพอีกว่า มียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งกระจายซ่อนไว้ตามจุดต่างๆใกล้บ้านพักเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปชี้จุดซุกซ่อนของกลางดังกล่าวพบรวมของกลางทั้งสิ้น 2,768 เม็ด ภายหลังสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่านายกมลเดชฯรับยาบ้ามาจากเครือญาติกันทำงานเป็นโชเฟอร์ขับสิบล้อและพนักงานขับรถทัวร์โดยจะนัดแนะส่งของให้ตามจุดต่างๆริมถนนและโทรศัพท์บอกให้ไปรับยาบ้าต่อมาจะมีคนมารับเงินค่ายาบ้าถึงบ้านโดยไม่ต้องโอนผ่านทางธนาคารเพื่อเป็นที่สงสัย
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง(ชุดฉก.โชคชัย)เปิดเผยว่านายกมลเดช หรือเอก มีพฤติกรรมเป็นพ่อค้ายาบ้ามานานประมาณ 3 ปี ซึ่งจะจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้เสพในพื้นที่อำเภอสวี และจำหน่ายให้กับพ่อค้ารายย่อยในอำเภอต่างๆทั่วจังหวัดชุมพรโดยเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างสอบสวนขยายผลเพื่อทำการติดตามตัวเข้าจับกุมเครือข่ายทั้งหมดต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น