ชุมพร - ครูยื้นหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรมไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก
ผู้บริหารโรงเรียน
วันที่ 2 กรกฎาคม
2562 เวลา 09.30 น.ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร
คณะครูโรงเรียนประชานิคม 2 หมู่ 6 ต.คุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จำนวน 3 คน ประกอบด้วย
นายสมชาย บุญช่วย นางสาวรัตนา หญีตป้อม และ นางสาวกิติยา สุขสวัสดิ์
เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายดุสิต ศักรกานต์
หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร
เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเลื่อนเปอร์เซ็นต์เงินเดือน จากการพิจารณาของ
นายปัญญา อยู่เปี่ยม ผู้อำนวยการโรงเรียนประชานิคม 2 นายดุสิตจึงประสานไปยัง นางจรัสศรี พรหมกลิ่น
รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดชุมพร ขอให้เดินทางมารับทราบเรื่องดังกล่าวด้วย
โดยคณะครูนำไฟล์บันทึกเสียง คำสั่งการปฏิบัติหน้าที่รักษาเวรยาม รายชื่อคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครองนักเรียน
และเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ มายื่นในวันนี้
นางสาวรัตนา และ นายสมชาย ร่วมกันเปิดเผยว่า มีครู 4
คนของโรงเรียนประชานิคม 2 รวมทั้ง นางรุจิรา สิงห์กันยา ซึ่งไม่ได้เดินทางมาด้วย
มีความคับข้องใจในพฤติกรรมของผู้บริหารโรงเรียนประชานิคม 2 ที่ไม่เป็นธรรม
และไม่โปร่งใส
เพราะนายปัญญาและคณะครูมีการประชุมสร้างข้อตกลงการเลื่อนขั้นเงินเดือนในการประเมิน
2 ด้านคือ ด้านความถี่ห่าง และ การประเมินผลงานตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 ถึงปัจจุบัน
เนื่องจากเมื่อปีการศึกษา 2558 ประเมินและพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนจากคณะกรรมการที่มีการแต่งตั้งในโรงเรียน
7 คน รวมทั้งนายปัญญาด้วย มีการประเมินผลงานครู 2 คน คือ นางสุวรรณี อยู่เปี่ยม
(ภรรยาของนายปัญญา) และ นางสาวรัตนา หญีตป้อม
แต่การพิจารณาไม่เป็นไปตามเป้าที่นายปัญญาต้องการ ทำให้นายปัญญาสั่งยกเลิกการพิจารณาตั้งแต่ปีการศึกษา
2559 ถึงปี 2561 ซึ่งนายปัญญาแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินการเลื่อนขั้นเงินเดือน
แต่นายปัญญาเป็นผู้พิจารณาเพียงคนเดียวโดยไม่ผ่านการประเมินจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นแต่อย่างใด
คณะครูไม่มีใครทราบว่าในแต่ละปีครูคนใดได้รับขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ
จะทราบก็ต่อเมื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.ชุมพร) เขต 1
ส่งหนังสือมาให้พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในรอบต่อไป และนายปัญญามารับตำแหน่งได้
5 ปี แต่ภรรยานายปัญญากลับได้รับการเลื่อนขั้นกรณีพิเศษเพียงคนเดียวถึง 3 ปี
การพิจารณาเลื่อนเปอร์เซ็นต์เงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาครั้งที่ 1
วันที่ 1 เมษายน 2562 มีการแบ่งร้อยละการเลื่อนเงินเดือนถึง 4 ระดับ
แต่กลับแจ้งในที่ประชุมว่ามีแค่ 3 ระดับ คือ ร้อยละ 3.03, 3.0,
2.85, 2.60 คณะครูเคยทำหนังสือร้องเรียนไปยัง
สพป.ชุมพร เขต 1 จำนวน 2 ครั้ง ฉบับที่ 1 เมื่อนายปัญญาทราบ
ก็เรียกคณะครูที่ร้องเรียนไปประชุม เมื่อมีการสอบถามข้อสงสัย นายปัญญาก็ตอบไม่ได้
ทุกคนจึงสงสัยว่านายปัญญาใช้เกณฑ์อะไรในการประเมิน แต่นายปัญญากลับด่าว่า ระดับ
2.60 อยู่ในชั้นเลว และยังข่มขู่การเลื่อนขั้นเงินเดือนครั้งต่อไปด้วย ส่วนฉบับที่
2 ผอ.สพป.ชุมพร เขต 1 คือ นายมนูญ จันทร์สุข ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 2
พฤษภาคม 2562 และได้ตักเตือนนายปัญญา แต่นายปัญญากลับใช้วาจาดุด่าและข่มขู่ครูที่ไปร้องเรียน
จึงขอให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพรประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ คือ การให้ขั้นเงินเดือน
เปอร์เซ็นต์เงินเดือนแบบไม่เป็นธรรม โดยไม่ตรงตามเกณฑ์พิจาณา และไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณา
การบริหารการเงินเกี่ยวกับการสร้างรั้วโรงเรียน
รั้วระดับชั้นปฐมวัย ฯลฯ การปฏิบัติหน้าที่รักษาเวรยามกลางคืนของครูผู้หญิง
การพิจารณาโครงการแบบไม่โปร่งใส
โดยไม่ผ่านมติที่ประชุม การเลือกปฏิบัติโดยเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้อง
การหมิ่นประมาทซึ่งหน้า โดยด่าทอหรือเหยียดหยามต่อสาธารณชน
และ การใช้อำนาจข่มขู่
โดยใช้โทสะในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้บั่นทอนจิตใจครูที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายดุสิต เผยว่า
เรื่องนี้คงต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เพราะวันนี้ได้ข้อมูลเพียงด้านเดียวจากผู้ที่ระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
หลังจากนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดชุมพร คงจะประสานกับ สพป.ชุมพร เขต 1
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป คิดว่าคงใช้เวลาไม่เกิน 1
เดือนคงจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบได้
เพราะเรื่องนี้มีระเบียบปฏิบัติของราชการเป็นตัวกำหนดอยู่แล้ว
ธนากร โกศลเมธี รายงานจังหวัดชุมพร 081823514
ทุกที่ทุกองค์กรควรอย่างยิ่ง ผู้บริหารต้องมีคุณธรรม ความโปร่งใส ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกที่ควรเพื่อความเข้มแข็งขององค์กร และเป็นแบบอย่างให้กับสาธารณะ เอาใจช่วยครับ
ตอบลบ