ชุมพร - แย่งขายของรถไฟ มาเฟียรถไฟ รุมตื้บสาวท้อง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 กพ.66 ร.ต.ท.สุบิน เย็นใส รอง สว.ส สภ.เมืองชุมพร อ.เมืองชุมพร รับแจ้งจาก นายวรชัย กุยุคำ อายุ24 ปี และ น.ส. กัลยรัตน์ ทรัพย์สายทอง อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่4 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพรว่า จากกรณี คลิปแม่ค้าท้องอ่อนๆและแฟนถูกรุมทำร้ายที่สถานีรถไฟชุมพร เหตุเพราะที่สถานีมีการประมูลขายของ สาเหตุจากหนูเป็นแม่ค้าเหมือนกัน แต่หนูเป็นแม่ค้าที่ขายบนขบวนรถไฟ หนูกำลังจะลงจากรถไฟ มีผู้ชายมาบอกว่า ไม่ไห้ขาย เพราะเค้าประมูลสถานีคือประมูลขายของ หนูเลยบอก หนูไม่รู้ว่า มีคนประมูล เค้าก็บอกว่า ถ้าพวกมึงยังขายมีปัญหากับกูแน่ๆทั้งๆที่หนูขายมานานแล้ว แต่ไม่เคยไปขายทับที่เค้า หนูขายบนรถไฟ เค้าขายล่างรถไฟ แล้วพอเถียงกัน ผญ.ของเค้ามากระชากมือหนู หนูบอกคุยกันดีๆพี่ มันก็เริ่มตอนนั้นเลยค่ะ นส.กัลยรัตน์ เล่าให้ ตร.ฟังตามคลิปที่นำมาให้ ตร.ดูเช่นกัน
หลังจากนั้น ตำรวจจึงได้สอบปากคำ นายวรชัย กุยุคำ ได้การว่า เมื่อวันที่ 7 กพ..เวลา ประมาณ 22.40 น.ที่ สถานีรถไฟชุมพร บริเวณชานชาลา ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ร่วม 10 คน เข้ามารุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลแตกที่ใบหน้าต้องเย็บหลายเข็ม รอยฟกซ้ำดำเขียวที่ใบหน้า คอ และ ลำตัว พร้อมทั้งนำใบตรวจร่างกายจากแพทย์ รพ.ชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ มาแสดงให้ตำรวจดู จึงได้รับแจ้งความและ จะได้ติดตามตัวคนร้ายที่ ทั้ง2สามีภรรยา จำหน้าตาได้ทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมา นางสาว กัลยรัตน์ ได้นำผู้สื่อข่าวไป ที่ สถานีรถไฟชุมพร เพื่อดูที่เกิดเหตุ พร้อมทั้ง กล่าวว่า “ได้เริ่มค้าขายมาตั้งแต่รุ่นแม่มาร่วม20 ปี เมื่อวันที่ 7 กพ.ที่ผ่านมา ได้มีชายฉกรรจ์เข้ามาห้ามไม่ให้ขายพร้อมทั้วบอกว่า ถ้าพวกมึงขายเจอกู พร้อมทั้งบอกว่าเป็นผู้ประมูลขายของบนสถานีรถไฟชุมพร แต่ ได้บอกกลับไปว่า ตนเองขายบนรถไฟ ชายคนดังกล่าวได้ปรบมือเรียกพรรคพวกเข้ามาร่วม10 คนใช้มีดฟันไปที่ศรีษะของสามี และ รุมทำร้ายจนสามีล้มลง และหันมาเตะตัวเองด้วย ทั้งที่ ตัวเองท้องอยู่ ร่วม2 เดือน หลังจากนั้นจึงหลบหนีไป
“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ขายที่ชานชาลา ตนเองได้จ่ายเงินให้กับคนคนหนึ่งที่อ้างว่า เป็นผู้ประมูลจากสถานีรถไฟชุมพรโดยจ่ายวันละ300 บาท จนรู้ว่าชายคนดังกล่าวหมดสัญญา ทำให้มีเงินที่จ่ายเกินไปจำนวนหนึ่ง จนสุดท้ายจะเรียกเงินอีก3 หมื่น แต่ไม่ยอมจ่ายจึงเข้าไปหานายสถานีรถไฟชุมพร เพื่อขอเงินที่จ่ายเกินไป คืน นายสถานีได้โอนคืนหั้ย หลังจากนั้นก็ถูกห้ามไม่ให้ขายที่ชานชาลา ตนเองจึงย้ายไปขายบนรถไฟ จนมาเกิดเรื่องในครั้งนี้
ทางด้านแม่ ของ นส.กัลยรัตน์ กล่าวว่า พวกตนเองขายอาหารอิสลามเพื่อให้คนอิสลามที่เดินทางมากับรถไฟในภาคใต้ได้กิน เพราะบางขบวนคนอิสลามเยอะมาก ขายมานาน ถึง22 ปี และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด“
ทางด้าน ชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์ กล่าวว่า “ไม่เคยเห็นเหตุการณ์รุนแรงมาก่อน พึ่งเห็นในครั้งนี้ คิดว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงมาก ไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น”
สำหรับกรณีดังกล่าว เป็น กลุ่มมาเฟียรถไฟที่ครอบคลุมกว้างตั้งแต่ สถานีรถไฟทุ่งสง มีการร่วมมือกับนายสถานีรถไฟแทบทุกสถานี มีรายได้เดือนละหลายร้อยล้าน และใช้ความรุนแรงกับผู้ที่ไม่ยอมจ่ายเงิน
ธนากร โกศลเมธีรายงาน0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น