ค้นพบป่าสมบูรณ์กลางเมืองชุมพร
วอนชาวบ้านช่วยกันปกป้องก่อนถูกทำลายจนหมด
วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 เวลา 14.00 น.
พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน
กองบัญชาการควบคุม มณฑลทหารบกที่ 44 พร้อมด้วย นายนิวัฒน์ สังข์มาลา
หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.2 (ยายไท) สำนักงานทรัพยากรป่าไม้ 11
สุราษฎร์ธานี นายสุชาติ ล้ำเลิศ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทส.จ.) ชุมพร นายวีระ อินสุรธาร
รองนายกเทศมนตรี ต.ขุนกระทิง และเจ้าหน้าที่ของทั้ง 4 หน่วยงาน
ได้นำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบป่าทุ่งเบี้ย (ทุ่งเลี้ยงสัตว์ทุ่งเบี้ย) หมู่ 8
ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ติดสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชุมพร และ
กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 จ.ชุมพร (กก.ตชด.41 ชุมพร)
หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า
ป่าดังกล่าวซึ่งเดิมมีพื้นที่นับพันไร่แต่ถูกบุกรุกทั้งจากหน่วยงานของรัฐและเอกชน
จนปัจจุบันเหลือพื้นที่อยู่ประมาณ 102 ไร่เท่านั้น
จึงเกรงว่าหากไม่รีบหาทางป้องกัน ป่าผืนดังกล่าวคงหมดไปในไม่ช้า
เจ้าหน้าที่ของทั้ง
4 หน่วยงานและสื่อมวลชน ใช้เวลาเดินสำรวจพื้นที่ป่าดังกล่าวประมาณ 1.30 ชั่วโมง
จากนั้น
นายนิวัฒน์ สังข์มาลา เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจาก มทบ.44
ขอให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ในป่าทุ่งเบี้ยว่ามีไม้หวงห้ามมากน้อยแค่ไหน
และสภาพป่าเป็นอย่างไร ซึ่งจากการเดินสำรวจก็พบว่าป่าผืนนี้เป็นป่าดิบชื้นที่กำลังฟื้นสภาพที่สมบูรณ์มาก
มีไม้หวงห้ามหลายชนิด เช่น กระถินเทพา ไม้อ้อยช้าง ไม้นนทรี ไม้ตีนเป็ด ไม้เคี่ยม
ไม้ชะเมา ต้นจิก ฯลฯ ซึ่งเป็นไม้ท้องถิ่นที่เป็นไม้หวงห้าม
แม้ปัจจุบันจะกลายเป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ แต่หากมีการสงวนรักษาและอนุรักษ์ไว้
ก็จะกลายเป็นป่าชุมชนที่สมบูรณ์หรือศูนย์ศึกษาธรรมชาติในท้องถิ่น
เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช.ได้เป็นอย่างดี
และถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่ยังมีป่าสมบูรณ์ขนาดนี้หลงเหลืออยู่กลางเมือง
นายสุชาติ กล่าวว่า ทส.จ.ชุมพร ได้รับการประสานจากชาวบ้านในพื้นที่ที่รักและหวงแหนป่า
ขอให้เข้ามาสำรวจเพื่อหาทางปกป้องพื้นที่ป่าที่ยังหลงเหลืออยู่ผืนนี้เอาไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
และไม่อยากให้มีการบุกรุกเพิ่มขึ้นอีก ส่วนนายวีระกล่าวว่า
ในฐานะตัวแทนของเทศบาลตำบลขุนกระทิง เห็นด้วยว่าควรจะอนุรักษ์ป่าผืนนี้ที่เหลือพื้นที่อีกประมาณ
102 ไร่เอาไว้เป็นป่าชุมชน
หากจะมีหน่วยงานของรัฐและเอกชนเข้ามาขอใช้พื้นที่อีกคงต้องนำเข้าที่ประชุมสภาเทศบาล
ต.ขุนกระทิง
เพื่อพิจารณาว่าไม่สมควรอนุญาตให้หน่วยงานใดหรือเอกชนรายใดเข้ามาใช้พื้นที่ป่าผืนนี้อีกแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ของทั้ง
4 หน่วยงานต้องเข้ามาตรวจสอบป่าทุ่งเบี้ยในครั้งนี้
เนื่องจากมีหน่วยงานราชการบางหน่วยงาน กำลังวางแผนฮุบพื้นที่ป่าทั้งหมด
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในหน่วยงานของตนเพียงองค์กรเดียว
ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบุกรุกทั้งทางตรงและทางอ้อมพื้นที่ป่าผืนนี้
โดยมีการตัดไม้หวงห้ามต่างๆ
ในพื้นที่ป่าผืนนี้แล้วลักลอบนำออกจากป่าไปแปรรูปเป็นจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น