ตำรวจด่านพละจับยาบ้า 1 ล้านเม็ด 300ล้านบาท
วันที่ 24 สิงหาคม 2559 ตำรวจชุมพรแถลงจับยาบ้า 1 ล้านเม็ด
300ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รอง ผบ.ร.25 พัน 1 มทบ.44(ชุมพร)พร้อม พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.จว.ชุมพร และ พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รรท.ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจบ้านพละ ซึ่งเป็นชุดจับกุม ได้นำตัวนายศักดา อัครศักดิ์ศรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.2 ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร นายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 ม.11 ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร มาแถลงผลการจับกุมทั้งสองได้พร้อมยาบ้า จำนวน 1 ล้านเม็ด ที่ซุกซ่อนมากับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า ตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 ฒง 9434 กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 23 สิงหาคม 59 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รรท.ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าตรวจบ้านพละ ได้นำกำลังตำรวจ ตั้งด่านตรวจบนถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ม.3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้มี นายศักดา อัครศักดิ์ศรี ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า ตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 ฒง 9434 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาในด่าน โดยมีนายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ นั่งมาเบาะหน้าด้านซ้าย จึงได้เรียกขอตรวจตามปกติ แต่ทั้งสองออกอาการท่าทางมีพิรุธอย่างชัดเจน ประกอบกับบริเวณกระบะด้านหลังมีกลิ่นหอมคล้ายยาบ้าโชยออกมา ทั้งทีกระบะด้านหลังไม่ได้บรรทุกสิ่งใดมาด้วย จึงได้นำทั้งสองพร้อมรถยนต์คันดังกล่าว เข้าทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุกระดาษห่อกันชื้นอย่างดี วางเรียงซุกซ่อนอยู่ใต้กระบะแม็กไลเนอร์ จึงได้นำมาตรวจนับยาบ้า รวมทั้งสิ้น จำนวนประมาณ 1 ล้านเม็ด จึงได้ยึดเป็นของกลางพร้อมนำตัวทั้งสองมาสอบปากคำ
จากการสอบปากคำ ทราบว่า นายศักดา อัครศักดิ์ศรี มีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง ส่วนนายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายไก่ย่าง ซึ่งทั้งสองประกอบอาชีพอยู่ในเขตอำเภอเมืองสกลนครเพื่อตบตาประชาชนว่าประกอบอาชีพสุจริต ทำมาค้าขาย แต่เบื้องหลังทั้งสองได้ยึดอาชีพรับจ้างขนยาบ้าจากภาคเหนือ ภาคอีสาน ไปส่งภาคใต้ โดยทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ยึดอาชีพขนยาบ้า มานานหลายปี โดยจะได้รับค่าจ้างรายเที่ยวๆละ 1 แสน 5 หมื่นบาท สำหรับเที่ยวนี้ ได้ไปรับรถยนต์จากเครือข่าย ซึ่งได้ขับรถจากฝั่งประเทศลาว ข้ามสะพานมิตรภาพมาจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถฝั่งไทย แล้วทั้งสองได้ขับต่อมาเพื่อนำยาบ้าทั้งหมด มาส่งต่อมาจอดทิ้งให้กับเครือข่าย ที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเครือข่ายก็จะนำไปส่งต่อให้กับนายทุนใหญ่ในประเทศเพื่อนต่อไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รอง ผบ.ร.25 พัน 1 มทบ.44(ชุมพร)พร้อม พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.จว.ชุมพร และ พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รรท.ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจบ้านพละ ซึ่งเป็นชุดจับกุม ได้นำตัวนายศักดา อัครศักดิ์ศรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.2 ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร นายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 ม.11 ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร มาแถลงผลการจับกุมทั้งสองได้พร้อมยาบ้า จำนวน 1 ล้านเม็ด ที่ซุกซ่อนมากับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า ตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 ฒง 9434 กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 23 สิงหาคม 59 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รรท.ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าตรวจบ้านพละ ได้นำกำลังตำรวจ ตั้งด่านตรวจบนถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ม.3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้มี นายศักดา อัครศักดิ์ศรี ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า ตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 ฒง 9434 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาในด่าน โดยมีนายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ นั่งมาเบาะหน้าด้านซ้าย จึงได้เรียกขอตรวจตามปกติ แต่ทั้งสองออกอาการท่าทางมีพิรุธอย่างชัดเจน ประกอบกับบริเวณกระบะด้านหลังมีกลิ่นหอมคล้ายยาบ้าโชยออกมา ทั้งทีกระบะด้านหลังไม่ได้บรรทุกสิ่งใดมาด้วย จึงได้นำทั้งสองพร้อมรถยนต์คันดังกล่าว เข้าทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุกระดาษห่อกันชื้นอย่างดี วางเรียงซุกซ่อนอยู่ใต้กระบะแม็กไลเนอร์ จึงได้นำมาตรวจนับยาบ้า รวมทั้งสิ้น จำนวนประมาณ 1 ล้านเม็ด จึงได้ยึดเป็นของกลางพร้อมนำตัวทั้งสองมาสอบปากคำ
จากการสอบปากคำ ทราบว่า นายศักดา อัครศักดิ์ศรี มีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง ส่วนนายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายไก่ย่าง ซึ่งทั้งสองประกอบอาชีพอยู่ในเขตอำเภอเมืองสกลนครเพื่อตบตาประชาชนว่าประกอบอาชีพสุจริต ทำมาค้าขาย แต่เบื้องหลังทั้งสองได้ยึดอาชีพรับจ้างขนยาบ้าจากภาคเหนือ ภาคอีสาน ไปส่งภาคใต้ โดยทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ยึดอาชีพขนยาบ้า มานานหลายปี โดยจะได้รับค่าจ้างรายเที่ยวๆละ 1 แสน 5 หมื่นบาท สำหรับเที่ยวนี้ ได้ไปรับรถยนต์จากเครือข่าย ซึ่งได้ขับรถจากฝั่งประเทศลาว ข้ามสะพานมิตรภาพมาจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถฝั่งไทย แล้วทั้งสองได้ขับต่อมาเพื่อนำยาบ้าทั้งหมด มาส่งต่อมาจอดทิ้งให้กับเครือข่าย ที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเครือข่ายก็จะนำไปส่งต่อให้กับนายทุนใหญ่ในประเทศเพื่อนต่อไป
ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งขอกล่าวหาทั้งสอง
ฐานความผิดร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ยาบ้า
ไว้ในครอบครอง ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งทาง รอง
ผบ.ตร.ได้มอบภาพของ อ.เฉลิมชัย ที่วาดภาพกรณีพิเศษให้กับทางตำรวจที่ทำความดี
มีผลงานประจักษ์แก่สังคมและยังได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นกำลังใจชุดจับกุมอีกด้วย
และ ล่าสุดทราบว่าทางตำรวจสามารถขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น