ชุมพร -
มหัศจรรย์สรีระ หลวงพ่อโปร่ง โชติโก วัดถ้ำพรุตะเคียน กลายเป็นพระธาตุ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เข้าพบ พระอธิการพินิจศักดิ์ ฉันทโก เจ้าอาวาสวัดถ้ำพรุตะเคียน หมู่ที่ 8 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับรายงานว่า มีวัตถุสีขาวจับอยู่ทั่วสรีระสังขาร ตั้งแต่เศียรทั่วร่างกาย ทั้งแขน ขา จนถึงปลายเท้า เป็นความ มหัศจรรย์สรีระ หลวงพ่อโปร่ง โชติโก พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ได้ไปพร้อมกันที่อาคารโขติโก สถานที่เก็บสรีระสังขาร พระครูโสตถยาธิคุณ (หลวงพ่อโปร่ง โชติโก) อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำพรุตะเคียน ที่ละสังขารไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562
เพื่อถวายการทำความสะอาดสรีระสังขารของหลวงพ่อ
แต่พบว่าสรีระของหลวงพ่อโปร่ง ได้มีวัตถุสีขาวจับอยู่ทั่วสรีระสังขาร
ตั้งแต่เศียรทั่วร่างกาย ทั้งแขน ขา จนถึงปลายเท้า
จนสร้างความประหลาดใจให้กับคณะสงฆ์และกรรมการที่ไปร่วมพิธีดังกล่าว
นอกจากนั้นยังพบว่าเส้นเกศา(ผม) ของหลวงพ่อได้ยาวออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการถวายการทำความสะอาดไปแล้ว 1 ครั้ง
ด้วยการนำเชื้อราที่เกาะอยู่ตามสรีระออกไป
จนมาถึงวันที่จะถวายทำความสะอาดสรีระสังขารในครั้งนี้ ก็ได้พบกับสิ่งอัศจรรย์ดังกล่าวเกิดขึ้น และพบว่าผิวของหลวงพ่อเป็นสีแดงคล้ายกับทับทิมใสจนมองเห็นกระดูก ดังนั้นพระเถรานุเถระ คณะสงฆ์ ได้ร่วมกันลงความเห็นพิจารณาร่วมกันว่า ไม่ควรไปทำความสะอาดสรีระ เพราะวัตถุสีขาวที่เห็นบนสรีระสังขารหลวงพ่อโปร่ง อาจจะเป็นพระธาตุเสด็จมาสถิตอยู่และจะไม่ปิดทองเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เห็นเนื้อแท้ขององค์หลวงพ่อ จนสร้างความปิติยินดีให้กับคณะสงฆ์ และบรรดาพุทธศาสนิกชน ที่เข้ามากราบสักการะ ปัจจุบันสรีระหลวงพ่อโปร่ง โชติโก ประดิษฐานในโลงแก้ว ที่วิหารโชติโก
สำหรับหลวงพ่อโปร่ง โชติโก หรือพระครูโสตถยาธิคุณ เป็นพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน องค์แรกที่ได้รับพระราชทานพัดขาวจากจังหวัดชุมพร ทั้งนี้หลวงพ่อโปร่ง โชติโก ได้อุปสมบทกับหลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสงคราม เมื่อเรียนวิชาแล้วได้ครบถ้วนแล้วจึงขออนุญาตหลวงพ่อสุด เพื่อออกธุดงค์สันโดษ และไดีเข้าเรียนวิชากับหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมเวฬุวัน จ.เชียงราย
จากนั้นเดินธุดงค์ในป่าดงดิบแถบภาคตะวันตกรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับสหภาพเมียนม่า โดยธุดงค์ผ่านหมู่บ้าน มอญ พม่า กะเหรี่ยง และเคยได้พบเสือสมิงที่ดุร้าย แต่ด้วยบารมีแห่งความเมตตาและตบะฌานที่แก่กล้าทำให้รอดพ้นจากสัตว์ร้ายต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ในระหว่างธุดงค์
จนกระทั้งเดินธุดงค์มาถึงที่ ถ้ำเขาพลู จึงได้เรียนกรรมฐานกับหลวงปู่เภา และเดินทางกลับไปเรียนวิชากับหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่อีกครั้ง และได้เดินธุดงค์มาพบกับถ้ำพรุตะเคียน ท่านมานั่งกรรมฐานในถ้ำ จนทำให้มีชาวบ้านมาพบเห็นและเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนจากท่านเป็นอย่างมาก
จนทำให้ชาวบ้านได้ขอให้ท่านหยุดธุดงค์และช่วยกันร่วมสร้างสำนักสงฆ์ให้หลวงพ่อที่ถ้ำพรุตะเคียนมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความเมตตาธรรมและบุญบารมีของหลวงพ่อประชาชนจึงเกิดแรงศรัทธาจึงได้ร่วมกันสร้างวัดขนาดใหญ่ ดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วถึง 3 วัด คือ วัดพรุตะเคียน วัดช่องมุด และ วัดเขาเจดีย์
นอกจากนี้ยังได้ หลวงพ่อโปร่ง โชติโก ผู้มีจิตศรัทธาจึงได้ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างตึกผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง ทั้งยังได้จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ สร้างโรงเรียน สร้างถนนให้กับชุมชนและสร้างประโยชน์นานานับประการ
จนกระทั้งหลวงพ่อโปร่ง โชติโก ท่านก็ได้ละสังขาร โดยในวันที่ทำพิธีบรรจุสังขารหลวงพ่อไว้ในโลงแก้ว ได้เกิดสิ่งอัศจรรย์ศิษยานุศิษย์ได้เห็นเงาคล้ายเสือได้กระโดดออกมาจากโลงทองหลวงพ่อด้านปลายเท้า ทำให้บรรดาเซียนพระต่างวิ่งหาวัตถุมงคลรุ่นที่มีเสือของหลวงพ่อทุกรุ่นที่หลวงพ่อได้เคยปลุกเสกไว้ โดยส่วนหนึ่งได้เก็บไว้ในวัดถ้ำพรุคะเคียนเพื่อแจกให้กับลูกศิษย์ลูกหา และเชื่อกันมีบารมีที่จะสามารถให้ความคุ้มครอง และส่งผลให้มีโชคลาภเมตตาและทำมาค้าขายโชคดีตลอดไป
ปัจจุบันวัดถ้ำพรุตะเคียน เป็นวัดป่าที่มีพระสายวิปัสสนากรรมฐาน หรือพระธุดงค์ เดินทางเข้ามาจำพรรษาร่วมกันเพื่อปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ภายในวัดแห่งนี้มีบรรยากาศร่มรื่น มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตามคำสอนของหลวงพ่อโปร่ง โชติโก จึงทำให้พุทธศาสนิกชนที่รักสงบ ได้เดินทางมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ สามเณร เนกขัมมะ และมาเป็นอุบาสก อุบาสิกา มานับถือศีลฟังธรรมกันจำนวนมาก
ถึงแม้นว่าหลวงพ่อโปร่ง โชติโก จะละสังขารไปแล้ว พุทธศาสนิกชนจำนวนมากก็ยังคงเดินทางมาสักการะ สรีระหลวงพ่อโปร่ง โชติโกกันทุกวันโดยในวันเข้าพรรษา วันที่ 6 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 07.30 น.มีพิธีทำบุญเลี้ยงพระตามประเพณี บนศาลาหอฉันท์ ฟังเทศนา 1 กัณฑ์ ร่วมกันถวายภัตรหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ถวายมหาสังฆทาน ถวายผ้าบังสุกุล ร่วมกันพร้อมร่วมกันทำบุญกรวดน้า ร่วมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้มีพระคุณ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
จากนั้นในเวลา 13.00 น.มีพิธีหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อโปร่ง โชติโก ครั้งที่ 8 ซึ่งจะเป็นส่วนของแขนข้างขวาสองช่วง โดยมีพิธีประธานฝ่ายสงฆ์ เจิมบายศรี ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนพระรัตนไตร พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ลูกศิษย์ลูกหาหลวงพ่อโปร่ง โชติโก ร่วมกันทำบุญทองเหลืองที่ใช้ในพิธีหล่อรูปเหมือน จากนั้นจะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เททองหล่อ จนกระทั้งเสร็จสิ้น
ธนากร โกศลเมธี รายงาน
ศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น