โครงการปลูกป่าประชารัฐ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 64 พรรษา

โครงการปลูกป่าประชารัฐ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 64 พรรษา   ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.59  พล.อ.สุรศักดิ์  กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เป็นประธานในพิธี  โครงการปลูกป่าประชารัฐ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 64 พรรษา   ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร   โดยมีนายสมดี  คชายั่งยืน  ผู้ว่าฯจ.ชุมพร นำหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน  นักเรียน นักศึกษา จำนวนมาก ให้การต้อนรับ และร่วมกันปลูกป่าชายเลน ฟื้นฟูพื้นที่ ที่ตรวจยึดคืนเพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับป่าชายเลนและระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง  พร้อมกันนี้ยังมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนที่มาร่วมกิจกรรม และมอบเกียรติบัตรให้กับองค์กรเอกชนที่สนับสนุนกิจกรรม  มอบอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานแก่หน่วยงาน  ปล่อยนกกรงหัวจุก และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

  พล.อ.สุรศักดิ์  กล่าวว่า  สืบเนื่องจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร  ได้ตรวจยึดพื้นที่คืนจากบริษัทเอกชน  ที่บุกรุกพื้นที่จำนวน 2,703.55 ไร่ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.59 ที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมด  ปัจจุบันสภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นบ่อสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำ  ซึ่งหากปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นฟูเองก็จะใช้เวลานาน  หากใช้งบประมาณของทางราชการอย่างเดียวก็จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก  จึงได้มีการจัดโครงการฯเพื่อร่วมกันและเพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ตามนโยบายของรัฐบาล  ซึ่งการปลูกป่าชายเลนจะส่งผลให้ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งเป็นไปอย่างสมดุล  ในการปลูกป่าประชารัฐในครั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะร่วมกับชุมชน  นักเรียนนักศึกษา  หน่วยงานภาครัฐและเอกชน  ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ที่กำการตรวจยึดที่ ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ในเบื้องต้นจำนวน 170 ไร่ 

 พื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร  มีพื้นที่ทั้งหมด 317 ตารางกิโลเมตร หรือ 198,125 ไร่ โดยจำแนกได้เป็น  พื้นที่น้ำประมาณ 165,696 ไร่ หรือประมาณ 80.5% ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ  และพื้นที่บกประมาณ 32,156 ไร่ หรือประมาณ 19.5% ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ  โดยพื้นที่บกประกอบด้วย พื้นที่ป่าชายเลน 17,375 ไร่ พื้นที่เกาะ 3,219 ไร่   พื้นที่ภูเขาและพื้นที่อื่นๆ 11,562 ไร่  มีเกาะต่างๆกว่า 40 เกาะ เช่น เกาะง่ามน้อย  เกาะง่ามใหญ่  เป็นต้น
                
              การจัดกิจกรรมตามโครงการฯ ดังกล่าว ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐที่อยู่ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  และส่วนราชการ  พร้อมทั้งภาคเอกชน นักเรียนนักศึกษาร่วมงานเป็นจำนวนมาก  ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น.ขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์  กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ได้เดินทางมาถึงบริเวณจัดโครงการฯพร้อมคณะเดินเข้างานพร้อมกับทักทายหัวหน้าส่วนราชการที่ให้การต้อนรับ  ทั้งนี้ได้มีประชาชนคนหนึ่งเข้ามายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม   

                 ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายวิษณุ และขอดูข้อความในเอกสารขอความเป็นธรรม  โดยมีเนื้อหาซึ่งเขียนด้วยลายมือว่า  “กราบเรียนท่าน  ข้าพเจ้าเป็นตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบางใหญ่อ่าวทุ่งคา  สวี หมู่ 4 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร  พร้อมด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่ง  อยากจะขอร้องเรียนและขอความเป็นธรรมจากท่านพเพื่อทวงคืนผืนป่าชายเลนบ้านบางใหญ่ หมู่ 4 ต.ทุ่งคา  ที่ตกไปอยู่ในมือผู้มีอันจะกินคนหนึ่ง เนื้อที่ประมาณ 17 ไร่เศษ กลับมาเป็นสมบัติชาติต่อไป
        เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าว  แต่เดิมเป็นป่าโกงกางทั้งที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ  และมีการปลูกเพิ่มเติม  เนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆชาวบ้านเดิมส่วนใหญ่มีอาชีพหลักทำการประมงพื้นบ้าน  ได้อาศัยพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งสร้างที่อยู่อาศัยและทำกิน จับปู จับปลา เพื่อหาเลี้ยงชีพ  โดยที่ชาวบ้านทั้งหมดต่างไม่มีใครมีเอกสารสิทธิ์  ในการครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าว  แต่แล้วอยู่ๆเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  ได้มีผู้มีอันจะกินคนหนึ่งได้อ้างเอกสารสิทธิ์  น.ส.3 ในที่ดินบริเวณดังกล่าว  และฟ้องขับไล่ชาวบ้านจนชนะคดี  และนำไปสู่การบังคับคดีทุบบ้านชาวบ้าน จำนวน 5 หลังคาเรือน  ชาวบ้านได้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปหลายหน่วยงาน  แต่เรื่องก็ยังเงียบเฉย  โดยชาวบ้านขอเพียงว่า  ให้ที่ดินแปลงดังกล่าวกลับคืนมาเป็นของแผ่นดินเมื่อชาวบ้านจำนวนมากไม่มีใครมีสิทธิ์ในที่ดิน  แล้วทำไมผู้มีอันจะกินคนนี้จึงมีสิทธิ์ในที่ดินเพียงคนเดียว    ดังนั้นในนามกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบางใหญ่ฯจึงอยากให้ท่านลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตนเอง  ว่าพื้นที่ที่น้ำทะเลท่วมถึงสามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้อย่างไร”  ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์  หลังได้รับทราบปัญหาของชาวบ้านบ้านบางใหญ่แล้วได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป