บิ๊กอสังหาริมทรัพย์ ‘KC’ ผนึก สถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ หนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ต่างๆ ปลูกกัญชาทางการแพทย์ (ระบบปิด) สร้างรายได้ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิดคลี่คลาย
บริษัท KC เล็งเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคการได้มาซึ่งใบอนุญาตปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมายนั้น วิสาหกิจชุมชนฯ ต่างๆ จะต้องจับมือกับหน่วยงานของรัฐ โดยมี MOU เป็นอันดับแรก ส่วนอันดับที่สอง จะต้องมีโรงเรือนเพาะปลูกกัญชาให้แล้วเสร็จ 100% และอันดับสาม จะต้องมีผู้รับซื้อชัดเจน ตามมาตรฐาน SOP ที่ยื่นขอ หาก อย. ให้ความเชื่อถือก็จะได้รับอนุญาต จึงเป็นที่มาของความร่วมมือ ระหว่าง KC กับ สถาบันพัฒนาส่งเสริมฯ โดย KC เป็นผู้ก่อสร้างโรงเรือนระบบที่ได้มาตรฐาน และสถาบันพัฒนาส่งเสริมฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางปลูกกัญชาทางการแพทย์ เพื่อสร้างมาตรฐานการเพาะปลูกอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล ป้องกันการก่อเกิดปัญหาสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งกฎหมายไม่อนุญาตให้วิสาหกิจชุมชนฯ ครอบครองช่อดอก ต้องเผาทำลายทิ้ง ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ส่วนช่อดอกที่ได้มาตรฐานนั้นสามารถนำมาทำเป็นสารสกัดได้
โดย KC ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ชำนาญในธุรกิจก่อสร้างและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ในการดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและให้บริการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี โดยทางเค.ซี. ได้พัฒนาก่อสร้างโรงเรือน เพาะปลูกให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกกัญชา (Green House) โดยออกแบบแก้ไขปัญหาความร้อนในโรงงานด้วย ระบบอีแวป (Evap) มีการออกแบบให้ติดตั้งพัดลมเพื่อลดความร้อน เพิ่มความชื้นให้กับโรงเรือนโดยได้ก่อสร้างตาม ความเหมาะสมกับการปลูกกัญชามากที่สุด จากการศึกษาข้อมูลโครงสร้างโรงเรือนเพาะปลูกที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความเหมาะสมกับการปลูกกัญชาเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด นับเป็น ความภาคภูมิใจที่บริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา
จึงมีแนวความคิดที่อยากช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนฯ ต่างๆ ในการสร้างโรงเรือนให้เป็นไปตามมาตรฐาน ในราคาที่ยุติธรรม จับต้องได้ สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ โดยมีความร่วมมือจากสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ที่พร้อมให้คำแนะนำการปลูกกัญชาที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งเป็นการตอบโจทย์การปลูกกัญชาทางการแพทย์
ดังนั้น คุณสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จึงมีแนวคิดในเชิง CSR
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรสองธารา (กลุ่มครูเกษียณ จังหวัดนครพนม และภาคีเครือข่าย) ได้รวมตัวนำร่องปลูกกัญชาทางการแพทย์ระบบปิดอย่างเต็มรูปแบบ และยังมีวิสาหกิจชุมชนต่างๆ หลักแสนหลักล้านคนที่เฝ้าดูความสำเร็จของโครงการดังกล่าว หากแต่ยังขาดความเชื่อมั่นว่าจะเกิดได้จริงหรือไม่ วันนี้กลุ่มครูเกษียณนครพนมกลุ่มนี้ จึงเป็นกลุ่มแรกที่มีความมุ่งมั่น เรียนรู้ และเข้าใจ เรื่องการปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างแท้จริง จึงเข้าร่วมกับสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ที่มีความชัดเจน สามารถสร้างรายได้ ปลดภาระหนี้สิน ด้วยโครงการดังกล่าวนี้
ด้าน พล.ท. สีหเดช ดีสนธิโชติ อดีตรองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี ในฐานะประธานสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ เผยว่า วันนี้ทางสถาบันฯได้ดำเนินการสร้างโรงเรือนระบบปิดที่ได้มาตรฐานให้พี่น้องเกษตรกรได้เรียนรู้วิธีการปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถสร้างรายได้แก่พี่น้องประชาชน และมีเป้าหมายคือไปสู่ตลาดต่างประเทศ เนื่องจากสถาบันฯ ของเราที่มีที่ตั้งโครงการของเราอยู่ที่ อาคาร Waldo 18 ที่แหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี นั้น เราดำเนินการเป็นระบบ สามารถสกัดสารสำคัญเป็นยาที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
พล.ท.สีหเดชฯ ย้ำด้วยว่า ในนามของสถาบันฯ อยากให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะหมู่มวลสมาชิกครูเกษียณนครพนม ว่า ถ้าท่านตั้งใจมุ่งมั่น เราพร้อมสนับสนุนแนวทางเพาะปลูกที่ถูกต้องเต็มที่
ด้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย เผยว่า จากจุดเริ่มต้นของการเปิดตลาดกัญชาชุมชนจังหวัดนครพนมแห่งแรกของเขตสุขภาพที่ 8 ศรีสงคราม มหานครแห่งกัญชา จนมาถึงวันนี้ที่ตนเองก็ได้สร้างเรือนเพื่อปลูกกัญชาเช่นกัน ขณะที่ทางเคซี และสถาบันฯ ก็ได้มาส่งเสริมปลูกนั้น ในโอกาสต่อไปก็จะไปสู่โอกาสที่ดีของพี่น้องประชาชนในอนาคต ซึ่งล่าสุดทางผู้ตรวจราขการเขต 8 สนใจขอเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเส้นทางกัญชา ในวันที่ 20 ธันวาคม นี้ ซึ่งจะเชิญรัฐมนตรีสาธารณสุขมาเป็นประธานด้วย
ธนากร โกศลเมธีรายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น