“พล.อ.ประวิตร" ประชุม คนช. ไฟเขียว เห็นชอบกม.ป่าชุมชน 3 ฉบับ เน้นสร้างรายได้ปชช.ร่วมดูแลรักษาผืนป่า - ฟื้นฟูแหล่งธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน (คนช.) ครั้งที่
1/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ไปยังห้องประชุมสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้และศูนย์ป่าไม้ในพื้นที่ โดยมีนายวราวุธ
ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคประชาชนและองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วมประชุม
เพื่อร่วมกันพิจารณาออกกฎหมาย อนุบัญญัติป่าชุมชน
และพิจารณาให้ความเห็นชอบการกำหนดวันป่าชุมชนแห่งชาติ
เพื่อให้การดำเนินการด้านป่าชุมชนสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
รวมถึงชุมชนสามารถบริหารจัดการป่าชุมชนได้ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า
ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบกำหนดให้ วันที่ 24 พฤษภาคม ของทุกปี
เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกและสืบสานพระราชปณิธานของสถาบันพระมหากษัตริย์
ที่ทรงพระราชทานแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรป่า ดิน น้ำ
เพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ ให้ “คน” กับ “ธรรมชาติ” อยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาอาศัยและเอื้อประโยชน์ต่อกันได้อย่างยั่งยืน
อีกทั้งเพื่อรวมพลังประชาชนชาวไทยจากทุกภาคส่วนในการร่วมดูแลรักษาป่า
ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีค่ายิ่ง ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
และคงอยู่เป็นมรดกทางธรรมชาติของประเทศ และของมนุษยชาติสืบไป
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า
นอกจากที่ประชุมในวันนี้ได้มีการรับทราบความคืบหน้า ในการออกกฎหมายอนุบัญญัติ
ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วจำนวน 14 ฉบับ
ซึ่งเป็นอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัด
และระเบียบที่จะทำให้คณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัดสามารถพิจารณาการขอจัดตั้งป่าชุมชน
และการจัดการแผนจัดการป่าชุมชน ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562
ให้สามารถเดินต่อไปได้ และ วันนี้ คนช.
มีมติเห็นชอบระเบียบคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนจำนวน 3 ฉบับ
ซึ่งเป็นระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนเพื่อส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้
และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชน ตลอดจนข้อห้ามที่มิให้กระทำในป่าชุมชน
และระเบียบที่ให้คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ
จากบุคคลที่มิใช่สมาชิก ที่เข้ามาใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเก็บ
การรักษา และการใช้จ่ายเงินรายได้เพื่อจัดการป่าชุมชน
เพื่อให้การจัดการป่าชุมชนเป็นไปโดยโปร่งใส ตรวจสอบได้
และป้องกันความขัดแย้งระหว่างสมาชิกป่าชุมชนในการจัดการป่าชุมชน
กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นแรงจูงใจให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐในการจัดการป่าชุมชน
เพื่อความมั่นคงทางสังคม ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
เป็นการกระจายอำนาจสู่ระดับพื้นที่
ทำให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานด้านป่าชุมชนเป็นไปตามความต้องการของชุมชน
และเหมาะสมตามศักยภาพของพื้นที่อย่างสมดุลและยั่งยืน
"หลังจากที่อนุบัญญัติเหล่านี้ได้ประกาศใช้แล้ว
จะทำให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการป่าชุมชนได้ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
และได้รับประโยชน์จากป่าชุมชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ที่เกิดอยู่ในขณะนี้ ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพิงป่าชุมชน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน
ทำให้ชุมชนมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ส่งผลให้ชุมชนร่วมมือกับรัฐในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ต่อไป"พล.อ.ประวิตรกล่าว
ธนากร
โกศลเมธรายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น