ชุมพร - จัดสัมมนาเครือข่ายชาวสวนทุเรียนภาคใต้
เดินหน้าขับเคลื่อนการผลิตทุเรียนคุณภาพเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งระบบ
วันที่15 กรกฎาคม 2563 เวลา10.00 น. นางกุลฤดี
พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชื่อมโยงเครือข่ายชาวสวนทุเรียนภาคใต้ ณ โรงแรม ลอฟท์
มาเนีย อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซึ่งสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5
จังหวัดสงขลาร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร
และสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้ จัดขึ้นเพื่อให้เครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียนในพื้นที่ภาคใต้ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางส่งเสริมการผลิตทุเรียนคุณภาพภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมการเกษตรและสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้
กิจกรรมในงานประกอบด้วย การเสวนา เรื่อง อนาคตทุเรียนไทย จากคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ
การเสวนา เรื่อง แนวทางส่งเสริมการผลิตทุเรียนคุณภาพ
จากสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้
การแสดงนิทรรศการทางวิชาการและผลงานของสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้
รวมทั้งแปลงใหญ่ทุเรียนของจังหวัดชุมพร และการออกบูธ
นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสวนทุเรียนจากภาคเอกชน
รวมถึงกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ของเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียนภาคใต้
โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมการสัมมนาจาก 14 จังหวัดภาคใต้ รวมจำนวน
400 คน
โดยมุ่งหวังให้เครือข่ายเกษตรกรมีความมั่นคงและยั่งยืนในการประกอบอาชีพทำสวนทุเรียนต่อไป
นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
เปิดเผยว่า ทุเรียนคือราชาแห่งผลไม้เขตร้อนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย
และประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่ดีที่สุดของโลก
เนื่องจากมีสภาพภูมิศาสตร์เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต มีสายพันธุ์ทุเรียนที่ดี
ตลอดจนเกษตรกรมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ทางการเกษตรได้อย่างเหมาะสม
ทำให้สามารถบริหารจัดการสวนทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพดี
รสชาติเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นผลไม้เศรษฐกิจหลักอันดับ 1 ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงสุด
ซึ่งยืนยันได้จากปริมาณผลผลิตทุเรียนสดส่งออกไปต่างประเทศ โดยในปี 2562 ประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ จำนวน 655,346 ตัน
คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทุเรียนผลสดกว่า 45,000 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์การผลิตทุเรียนในภาคใต้
ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญของประเทศไทย ลำดับที่ 2 รองจากภาคตะวันออก
มีพื้นที่ปลูก 571,373 ไร่ ให้ผลผลิตแล้ว 437,995 ไร่ มีแปลงใหญ่ทุเรียน 75 แปลง
เกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ 3,452 ราย
และกรมส่งเสริมการเกษตรได้คาดการณ์ว่าปี 2563 จะมีปริมาณผลผลิตทุเรียนจากภาคใต้ออกสู่ตลาดรวม
588,337 ตัน ซึ่งขณะนี้มีผลผลิตตามฤดูกาลออกสู่ตลาดแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน
2563 โดยมีการกระจายผลผลิตไปยังผู้บริโภคภายในประเทศและต่างประเทศที่สำคัญคือ
การส่งออกทุเรียนผลสดไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของทุเรียน
ด้วยวิธีการกระจายผลผลิตผ่านผู้ประกอบการ (ล้ง) ซึ่งจังหวัดชุมพรนับเป็นตลาดสำคัญเนื่องจากมีล้งรับซื้อทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้
นอกจากนี้ยังกระจายผลผลิตผ่านวิสาหกิจชุมชน ศูนย์คัดแยกผลไม้ชุมชน สหกรณ์
กลุ่มเกษตรกร Modern Trade ไปรษณีย์ ตลาดออนไลน์
ตลาดค้าผลไม้ภายในจังหวัด การจำหน่ายตรงให้กับผู้บริโภค และการจัดงานประชาสัมพันธ์
ตลอดจนการแปรรูป ด้วยวิธีแช่แข็ง อบแห้ง กวน และทอด
กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เล็งเห็นความสำคัญของทุเรียนทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการขยายพื้นที่ปลูก จึงได้ร่วมกับเครือข่ายแปลงใหญ่ผู้ปลูกทุเรียน จัดตั้งเป็นสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนแห่งประเทศไทย ในปี 2562 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน และให้สมาพันธ์สามารถบริหารจัดการผลิตทุเรียนตลอดห่วงโซ่ เพื่อให้ผลผลิตมีความสมดุลกับความต้องการของตลาด สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนระดับภาคมีทั้งหมด 6 ภาค ตามเขตของกรมส่งเสริมการเกษตร สำหรับภาคใต้ปัจจุบันมี ดร.ฉัตรกมล มุ่งพยาบาล เป็นนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้ มีคณะกรรมการรวม 20 คน มีสมาชิก 3,400 ราย 1 ปีที่ผ่านมา สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้ได้จัดทำระเบียบสมาพันธ์และอยู่ระหว่างเตรียมการจัดตั้งเป็นสมาคมชาวสวนทุเรียน รวมทั้งได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ถ่ายทอดความรู้การผลิตทุเรียนคุณภาพแก่สมาชิก และพัฒนาเกษตรกรต้นแบบในเรื่องการลดต้นทุนการผลิต การเชื่อมโยงตลาดกับลูกค้า และในอนาคตมีแผนขยายผลการลดต้นทุนให้ครอบคลุมสมาชิกจะทำให้เกษตรกรสมาชิกสมาพันธ์มีความเสมอภาคในการรับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน
นายสุพิท จิตรภักดี
ผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา
ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า 1 ปีกับการจัดตั้งสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้
ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลการเกษตรของภาคใต้ได้ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ
กับสมาพันธ์ฯ อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส
โคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ได้บริหารจัดการเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต
ขณะนี้สถานการณ์การส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน
ยังมีความต้องการเป็นจำนวนมากและไทยยังส่งออกเป็นอันดับ 1 แต่การเพิ่มขึ้นของพื้นที่การปลูกทุเรียนทั้งในประเทศและเพื่อนบ้านเกิดการแข่งขันมากขึ้น
ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพจึงสำคัญมาก เป็นตัวกำหนดทิศทางอนาคตของทุเรียนไทย
การสัมมนาเชื่อมโยงเครือข่ายชาวสวนทุเรียนภาคใต้ครั้งนี้
เป็นความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรโดยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่
5
จังหวัดสงขลา สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร
และสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้ เพื่อให้สมาชิกเครือข่ายชาวสวนทุเรียนภาคใต้
ได้มีโอกาสเรียนรู้สถานการณ์การผลิตและการตลาดทุเรียนทั้งจากภาครัฐและเอกชน
โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจาก ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี กรมวิชาการเกษตร
วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในการจัดนิทรรศการการผลิตทุเรียนคุณภาพ
และจากภาคเอกชนในการแสดงและจำหน่ายปัจจัยการผลิตในแปลงทุเรียน
ด้าน ดร.ฉัตรกมล มุ่งพยาบาล
นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้และนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยคนแรก กล่าวถึง ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาว่า
สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้
ได้เริ่มมีบทบาทในการดำเนินงานทั้งในส่วนของการจัดตั้งองค์กร
และการสนับสนุนทางวิชาการแก่เครือข่ายชาวสวนทุเรียนภาคใต้ ดังนี้
1. การประชุมคณะกรรมการสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้ เพื่อระดมสมองในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของสมาพันธ์ ทั้งการขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้งภาคใต้ การกำหนดรูปแบบโลโก้ของสมาพันธ์และจัดทำเสื้อสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย เพื่อใช้ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์แก่บุคคลทั่วไป
2. การยกร่างระเบียบสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยเพื่อให้ครอบคลุมสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้และภูมิภาคอื่น ๆ
3. การเตรียมการรับสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการเพื่อความมั่นคงและก้าวหน้าของสมาพันธ์ รวมถึงการหมุนเวียนเยี่ยมเยือนพบปะเพื่อนสมาชิกในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ของภาคใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลสถานการณ์การผลิตทุเรียน
4. การบรรยายให้ความรู้แก่สมาชิกเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนทุเรียนภาคใต้ในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะการวางแผนการผลิตทุเรียนคุณภาพทั้งในฤดูและนอกฤดู เทคนิคการให้น้ำเพื่อพัฒนายอดและผล
ให้ถูกต้องตามเวลาที่เหมาะสม การลดต้นทุนการผลิตด้วยการใช้เคมีเกษตรอย่างถูกต้อง เหมาะสม ตรงเวลา และราคาถูก ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากส่วนต่างที่หายไปของต้นทุนที่เกินความจำเป็น
5. การส่งเสริมนวัตกรรมอย่างง่ายในการป้องกันการเข้าทำลายของสัตว์และแมลงศัตรูทุเรียน เช่น การใช้แผ่นป้องกันการเข้าทำลายของกระรอก ซึ่งเกษตรกรสามารถตัดแผ่นพลาสติกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร แล้วเสียบครอบที่ขั้วผลทุเรียน จะช่วยป้องกันไม่ให้กระรอกเข้าถึงผลทุเรียนได้ หรือการวางกับดักบริเวณทรงพุ่มเพื่อล่อผีเสื้อหรือแมลงอื่น ๆ ไม่ให้ไปวางไข่ที่ผลทุเรียนได้
6. การส่งเสริมและเป็นทีมที่ปรึกษาให้สมาชิกแปลงใหญ่ได้รวมกลุ่มวางแผนการผลิตทุเรียนคุณภาพแบบครบวงจร โดยทดลองดำเนินการในแปลงใหญ่ทุเรียนบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสนับสนุนให้เป็นแปลงใหญ่ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้ในการผลิตทุเรียนคุณภาพแบบครบวงจร ซึ่งประสบผลสำเร็จด้วยดี ส่งผลให้เกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่มีรายได้สูงขึ้น จากต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง และผลผลิตมีคุณภาพ
ทำให้ขายได้ในราคาที่สูงขึ้น
7. การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ทุเรียนภาคใต้ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา จัดงาน “มหกรรมทุเรียนคุณภาพภาคใต้ (Durian Premium in Southern of Thailand Festival)” ในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 2 กันยายน 2562 ณ ศูนย์การค้าจังซีลอน จังหวัดภูเก็ต และในคราวเดียวกัน ได้มีการลงนามในข้อตกลง
ความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยและบริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล จำกัด
(ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต)
1. การประชุมคณะกรรมการสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้ เพื่อระดมสมองในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของสมาพันธ์ ทั้งการขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้งภาคใต้ การกำหนดรูปแบบโลโก้ของสมาพันธ์และจัดทำเสื้อสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย เพื่อใช้ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์แก่บุคคลทั่วไป
2. การยกร่างระเบียบสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยเพื่อให้ครอบคลุมสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้และภูมิภาคอื่น ๆ
3. การเตรียมการรับสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการเพื่อความมั่นคงและก้าวหน้าของสมาพันธ์ รวมถึงการหมุนเวียนเยี่ยมเยือนพบปะเพื่อนสมาชิกในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ของภาคใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลสถานการณ์การผลิตทุเรียน
4. การบรรยายให้ความรู้แก่สมาชิกเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนทุเรียนภาคใต้ในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะการวางแผนการผลิตทุเรียนคุณภาพทั้งในฤดูและนอกฤดู เทคนิคการให้น้ำเพื่อพัฒนายอดและผล
ให้ถูกต้องตามเวลาที่เหมาะสม การลดต้นทุนการผลิตด้วยการใช้เคมีเกษตรอย่างถูกต้อง เหมาะสม ตรงเวลา และราคาถูก ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากส่วนต่างที่หายไปของต้นทุนที่เกินความจำเป็น
5. การส่งเสริมนวัตกรรมอย่างง่ายในการป้องกันการเข้าทำลายของสัตว์และแมลงศัตรูทุเรียน เช่น การใช้แผ่นป้องกันการเข้าทำลายของกระรอก ซึ่งเกษตรกรสามารถตัดแผ่นพลาสติกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร แล้วเสียบครอบที่ขั้วผลทุเรียน จะช่วยป้องกันไม่ให้กระรอกเข้าถึงผลทุเรียนได้ หรือการวางกับดักบริเวณทรงพุ่มเพื่อล่อผีเสื้อหรือแมลงอื่น ๆ ไม่ให้ไปวางไข่ที่ผลทุเรียนได้
6. การส่งเสริมและเป็นทีมที่ปรึกษาให้สมาชิกแปลงใหญ่ได้รวมกลุ่มวางแผนการผลิตทุเรียนคุณภาพแบบครบวงจร โดยทดลองดำเนินการในแปลงใหญ่ทุเรียนบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสนับสนุนให้เป็นแปลงใหญ่ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้ในการผลิตทุเรียนคุณภาพแบบครบวงจร ซึ่งประสบผลสำเร็จด้วยดี ส่งผลให้เกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่มีรายได้สูงขึ้น จากต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง และผลผลิตมีคุณภาพ
ทำให้ขายได้ในราคาที่สูงขึ้น
7. การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ทุเรียนภาคใต้ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา จัดงาน “มหกรรมทุเรียนคุณภาพภาคใต้ (Durian Premium in Southern of Thailand Festival)” ในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 2 กันยายน 2562 ณ ศูนย์การค้าจังซีลอน จังหวัดภูเก็ต และในคราวเดียวกัน ได้มีการลงนามในข้อตกลง
ความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยและบริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล จำกัด
(ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต)
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตของสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้
ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา
และสำนักงานเกษตรจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้
จะขยายจำนวนสมาชิกให้ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้
และจะร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรสมาชิกเครือข่ายสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคใต้
ดังนี้
ต้นน้ำ
1. ส่งเสริมแนวคิดการสร้างจรรยาบรรณวิชาชีพของสมาชิก
2. ส่งเสริมการวางแผนการผลิตเพื่อตอบโจทย์การตลาด (แผนธุรกิจการเกษตร)
3. ส่งเสริมการเรียนรู้ปัจจัยพื้นฐานการผลิต ได้แก่ พฤติกรรมของพืช/จุดวิกฤตทุเรียน เทคโนโลยี/ปัจจัย
การผลิตทั้งเคมีเกษตรและสารชีวภัณฑ์ การเรียนรู้ภูมิประเทศและภูมิอากาศ การจัดการแรงงานภาคการผลิต
4. ส่งเสริมการเรียนรู้กระบวนการผลิตทุเรียนคุณภาพ ทั้งในฤดูและนอกฤดูกาลผลิต อย่างยั่งยืน ตลอดจนระบบการผลิตภายใต้มาตรฐาน GAP ทุเรียน
5. ส่งเสริมการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เอกชน เกษตรกรในการพัฒนาทุเรียนคุณภาพ
6. ส่งเสริมการจัดการทุเรียนคุณภาพโดยแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ทำหลักสูตรการจัดการทุเรียนคุณภาพที่ยั่งยืน (โรงเรียนทุเรียน)
7. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสู่เกษตรกร
กลางน้ำ
1. ส่งเสริมการจัดทำฐานข้อมูลแปลงใหญ่ สมาชิกสมาพันธ์เชิงประจักษ์
2. ส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มเครือข่ายสมาชิกสมาพันธ์
3. ส่งเสริมแนวคิดการบริหารจัดการกลุ่ม/องค์กรชาวสวนทุเรียน โดยใช้หลักธรรมาภิบาล
4. ส่งเสริมแนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรด้านการเงิน (มีวินัยทางการเงิน)
5. ส่งเสริมการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต ได้แก่ การบริหารจัดการปัจจัยการผลิตในแปลงปลูก
การรวมกลุ่มจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิต การจัดการปุ๋ยผสมตามความต้องการของต้นทุเรียนเพื่อใช้ให้เหมาะสมกับช่วงการพัฒนาและเจริญเติบโตของผลทุเรียน
6. ส่งเสริมการเข้าถึงเงินทุนและการบริหารเงินทุนในฤดูกาลผลิต ทั้งในรูปแบบบุคคลและรูปแบบกลุ่ม
ปลายน้ำ
1. ส่งเสริมการจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ หรือการส่งผลผลิตให้กับผู้บริโภคโดยตรง
2. ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากทุเรียนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
3. ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ทุเรียนอัตลักษณ์จากจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายตลาด
4. ส่งเสริมการนำทุเรียนคุณภาพเข้าจำหน่ายใน Modern trade
โดยคาดหวังผลสัมฤทธิ์จากแนวทางการยกระดับสมาชิกเครือข่ายชาวสวนทุเรียนภาคใต้ เพื่อการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพทุเรียน ดังนี้
1. เกษตรกรชาวสวนทุเรียนมีการรวมกลุ่มดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นทางการ
2. มีการบริหารจัดการเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ ได้แก่ มีการทำแผนธุรกิจทุเรียน ร่วมกันจัดหาปัจจัยการผลิต การเพิ่มช่องทางการตลาด การเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต จัดหาตลาดซื้อขายที่แน่นอน
3. มีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และภูมิปัญญา มาปรับใช้ในแปลงปลูก มีการใช้เครื่องทุ่นแรง (เครื่องจักร เครื่องมือ) เพื่อลดการใช้แรงงาน
4. มีการบริหารจัดการเงินทุนและทรัพยากรของกลุ่ม เพื่อความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนของกลุ่ม
ต้นน้ำ
1. ส่งเสริมแนวคิดการสร้างจรรยาบรรณวิชาชีพของสมาชิก
2. ส่งเสริมการวางแผนการผลิตเพื่อตอบโจทย์การตลาด (แผนธุรกิจการเกษตร)
3. ส่งเสริมการเรียนรู้ปัจจัยพื้นฐานการผลิต ได้แก่ พฤติกรรมของพืช/จุดวิกฤตทุเรียน เทคโนโลยี/ปัจจัย
การผลิตทั้งเคมีเกษตรและสารชีวภัณฑ์ การเรียนรู้ภูมิประเทศและภูมิอากาศ การจัดการแรงงานภาคการผลิต
4. ส่งเสริมการเรียนรู้กระบวนการผลิตทุเรียนคุณภาพ ทั้งในฤดูและนอกฤดูกาลผลิต อย่างยั่งยืน ตลอดจนระบบการผลิตภายใต้มาตรฐาน GAP ทุเรียน
5. ส่งเสริมการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เอกชน เกษตรกรในการพัฒนาทุเรียนคุณภาพ
6. ส่งเสริมการจัดการทุเรียนคุณภาพโดยแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ทำหลักสูตรการจัดการทุเรียนคุณภาพที่ยั่งยืน (โรงเรียนทุเรียน)
7. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสู่เกษตรกร
กลางน้ำ
1. ส่งเสริมการจัดทำฐานข้อมูลแปลงใหญ่ สมาชิกสมาพันธ์เชิงประจักษ์
2. ส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มเครือข่ายสมาชิกสมาพันธ์
3. ส่งเสริมแนวคิดการบริหารจัดการกลุ่ม/องค์กรชาวสวนทุเรียน โดยใช้หลักธรรมาภิบาล
4. ส่งเสริมแนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรด้านการเงิน (มีวินัยทางการเงิน)
5. ส่งเสริมการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต ได้แก่ การบริหารจัดการปัจจัยการผลิตในแปลงปลูก
การรวมกลุ่มจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิต การจัดการปุ๋ยผสมตามความต้องการของต้นทุเรียนเพื่อใช้ให้เหมาะสมกับช่วงการพัฒนาและเจริญเติบโตของผลทุเรียน
6. ส่งเสริมการเข้าถึงเงินทุนและการบริหารเงินทุนในฤดูกาลผลิต ทั้งในรูปแบบบุคคลและรูปแบบกลุ่ม
ปลายน้ำ
1. ส่งเสริมการจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ หรือการส่งผลผลิตให้กับผู้บริโภคโดยตรง
2. ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากทุเรียนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
3. ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ทุเรียนอัตลักษณ์จากจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายตลาด
4. ส่งเสริมการนำทุเรียนคุณภาพเข้าจำหน่ายใน Modern trade
โดยคาดหวังผลสัมฤทธิ์จากแนวทางการยกระดับสมาชิกเครือข่ายชาวสวนทุเรียนภาคใต้ เพื่อการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพทุเรียน ดังนี้
1. เกษตรกรชาวสวนทุเรียนมีการรวมกลุ่มดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นทางการ
2. มีการบริหารจัดการเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ ได้แก่ มีการทำแผนธุรกิจทุเรียน ร่วมกันจัดหาปัจจัยการผลิต การเพิ่มช่องทางการตลาด การเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต จัดหาตลาดซื้อขายที่แน่นอน
3. มีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และภูมิปัญญา มาปรับใช้ในแปลงปลูก มีการใช้เครื่องทุ่นแรง (เครื่องจักร เครื่องมือ) เพื่อลดการใช้แรงงาน
4. มีการบริหารจัดการเงินทุนและทรัพยากรของกลุ่ม เพื่อความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนของกลุ่ม
ธนากร โกศลเมธี รายงาน
ศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น