ชุมพร - ถวายราชสดุดีและวางพวงมาลา วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า นับเป็นปีที่ ๑๑๓ ลูกเสือไทย
วันนี้ (25 พ.ย. 67) นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในงานพิธีถวายราชสดุดีและวางพวงมาลา "วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ มีบุคลากรทางการลูกเสือ ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ชมรม สมาคม สโมสร และมูลนิธิเข้าร่วม ณ โรงเรียนวัดพิชัยยาราม ตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นอกจากนี้ยังได้ร่วมในกิจกรรมอาสาบำเพ็ญประโยชน์ “ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ” ทำดี ทำได้ ทำทันที โดยช่วยกันคนละไม้คนละมือทำความสะอาด เก็บกวาดขยะ บริเวณโรงเรียนวัดพิชัยยาราม และวัดใกล้เคียงซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ
เนื่องในวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย จังหวัดชุมพรได้จัดงาน วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ขึ้น โดยลูกเสือ เนตรนารี ต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาธรรม ด้วยการร่วมถวายพวงมาลา และถวายราชสดุดี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวฯ ทำพร้อมกันทั่วประเทศ โดยสำนักงานลูกเสือจังหวัดชุมพร ดำเนินกิจการลูกเสือ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เพราะปลูกฝังค่านิยมพื้นฐานสำหรับเด็กและเยาวชนในเรื่องความมีระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน รู้จักใช้เวลาว่างบำเพ็ญประโยชน์ และสร้างความสมานฉันท์ในหมู่คณะ ร่วมถึงเยาวชนลูกเสือทั่วโลก ซึ่งเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไปสู่การพัฒนาประเทศ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงเห็นว่าประเทศชาติจะมีความมั่นคงได้นั้น ต้องมีกำลังกองทัพที่มีคุณภาพ ประชาชนมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จึงทรงตั้งกองเสือป่า และนำเยาวชนมาฝึกอบรมตามหลักวิชาการทหาร เพื่อเป็นกำลังสำรองในการป้องกันประเทศ ต่อมาได้ทรงเล็งเห็นถึง การปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ ในการประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง จึงทรงตั้งกองลูกเสือขึ้น เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔ พระองค์ได้ทรงดำเนินการตราพระราชบัญญัติ ระเบียบ ข้อบังคับ ลักษณะการปกครอง และฝึกอบรมลูกเสือในกองที่ตั้งใหม่ด้วยพระองค์เอง และมีพระราชประสงค์ให้นำกิจการลูกเสือไปเผยแพร่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ในทุกมณฑลของประเทศ จึงทำให้กิจการลูกเสือมีความเจริญรุ่งเรืองและพัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปตามกาลสมัยจวบจนปัจจุบัน นับเป็นปีที่ ๑๑๓ แล้ว
กิจการลูกเสือเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นทั้งในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย ผู้ที่รับผิดชอบการบริหารกิจการลูกเสือทุกระดับทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ต้องรู้จักใช้โอกาสและความสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ โดยใช้คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือเป็นหน่วยขับเคลื่อนซึ่งคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือเปรียบคล้ายกับศีล คือเป็นข้อปฏิบัติ ซึ่งลูกเสือทุกคนจะต้องยึดถือปฏิบัติตาม หากลูกเสือทุกคนยึดถือและปฏิบัติตาม ย่อมจะมีคุณธรรมและจริยธรรมสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงอยากเห็นคนไทยในชาติบ้านเมืองมีความสามัคคี มีวินัย ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนจะได้เข้ามามีส่วนร่วมที่สำคัญในการพัฒนาและ หล่อหลอมเยาวชนทั้งในสถานศึกษาและชุมชนให้เข้มแข็ง พร้อมๆกับสร้างเยาวชนรุ่นใหม่หัวใจแข็งแกร่ง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นำประชาธิปไตยและห่างไกลยาเสพติด อันจะนำพาไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าทั้งปัจจุบันและอนาคต
ปัจจุบันได้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การลูกเสือมีคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงแก่ชาติบ้านเมือง ซึ่งเราพบเห็นกันอยู่เสมอว่า ลูกเสือได้ออกบำเพ็ญประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ นับว่าลูกเสือทั้งหลายได้เจริญตามเบื้องพระยุคลบาท ในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ กระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่ให้การส่งเสริมกิจการลูกเสือ ทั้งในส่วนของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ สำนักงานลูกเสือจังหวัด สำนักงานลูกเสือเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานอื่น เช่น ลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ลูกเสืออาสา กกต. ลูกเสือช่อสะอาด ลูกเสือทักษะชีวิต ลูกเสือจราจร ลูกเสือสิ่งแวดล้อม และสมาคมสโมสรลูกเสือต่างๆ เป็นต้น โดยเฉพาะลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ที่สามารถนำเอากระบวนการลูกเสือไปสู่ประชาชนได้อย่างกว้างขวาง สร้างความรักความศรัทธาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานสำคัญของประชาชนชาวไทย
ในโอกาสที่ได้มาพร้อมกันต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ พระบรมราชานุสรณ์ของพระองค์ในวันนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระองค์ ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดลูกเสือไทย จึงให้ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ และลูกเสือทั้งหลายจงพร้อมใจกัน รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพวกเรา ขอให้ทุกคนจงตั้งจิตปณิธานอันแน่วแน่ สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชประสงค์เห็นคนในชาติบ้านเมือง มีความสามัคคี มีวินัย ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนจะได้ทบทวนและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการลูกเสือ ไม่ว่าลูกเสือในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรียน จงพร้อมใจกันประสานสัมพันธ์ พัฒนาหล่อหลอมเด็ก เยาวชน และประชาชนให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งเชื่อมั่นว่าหากเด็ก เยาวชน และประชาชนมีคุณภาพและเข้มแข็ง สถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ จะมีความมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป
ข้าแต่พระวิญญาณอันทรงศิริเสาวภาคย์ กอร์ปด้วยพระเมตตา พระกรุณา และพระปัญญาคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้จะเสด็จสวรรคตไป เป็นเวลา ๙๙ ปีแล้ว พระองค์ทรงประทับอยู่ ณ สรวงสวรรค์ชั้นใด ขอพระองค์ทรงพระกรุณาทราบว่า บัดนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะยึดมั่นในกตัญญูกตเวทิตาธรรม รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อยู่เสมอและจะปฏิบัติหน้าที่ ให้ดีที่สุด เพื่อให้กิจการลูกเสือและประเทศชาติอันเป็นที่รัก และหวงแหนของปวงชนชาวไทย ได้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป ตลอดกาลนาน
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น