ประกาศสมาคมชาวจังหวัดชุมพร เรื่อง
การทอดกฐิน ณ วัดศาลาลอย เมื่อ 20 ตุลาคม 2567
ตามที่สมาคมชาวจังหวัดชุมพร นำโดยพลเอกไพไพโรจน์
นาดฉัตรีย์ นายกสมาคม ของทอดกฐิน ณ วัดศาลา ลอย และได้มีการทอดกฐินเเล้ว
เมื่อวันที่ 20 ตค.67 นั้น
ขอเรียนว่า
หลังจากการทอดกฐินมีข่าวจากทางวัดและชาวบ้านที่อาจทำให้ สมาคมชาวจังหวัดชุมพร รวม
ทั้งตัวนายกสมาคม กรรมการ และเลขา
เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง เช่น กล่าวว่า มีผ้าไตรผืนเดียว พุ่มก็
ไม่มี
ต่อไปไม่ต้องมาทอดที่นี่อีกให้ไปทอดที่อื่น กฐินปีนี้วัดศาลาลอยได้เงินเป็นล้าน
แต่โอนให้วัดเพียงหนึ่งแสน
สองหมื่นบาท
ส่วนอีกด้านหนึ่งนำข้อความไปโพสต์ในเฟสบุ๊คว่า กฐินวัดดังจังหวัดชุมพร ประธาน เชิตเงินการ
ทำบุญ
จากการหาข่าวทราบว่ากรรมการวัดเป็นผู้สั่งให้ลงเฟสฯ
นอกจากนี้ชาวบ้านบางคนยังพูดว่ากฐินครั้งนี้เป็น
กฐินทิพย์ และทำไมเงินทำบุญกฐินต้องแบ่งครึ่ง
ส่วนใคร ท่านใดเป็นผู้พูดน่าจะรู้ดีด้วยตนเอง
สมาคมชาวจังหวัดชุมพร ได้ประชุมคณะกรรมการสมาคม
ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 31 ตุลาดม 2567
รับทราบเรื่องดังกล่าวข้างต้น
จึงมีมติให้ออกประกาศสมาคมชี้แจงให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ทาง
วัดและประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง
สมาคมจึงขอเรียนขั้นตอนการดำเนินการของสมาคมให้ทราบ ดังนี้ดังนี้
1. พลเอกไพโรจน์ นาคฉัตรีย์
นายกสมาคมชาวจังหวัดชุมพร ทำการของกฐินกับเจ้าอาวาสวัดศาลาลาลอย
2. นายกสมาคมมอบให้เลขาไปจัดพิมพ์ใบฎีกากฐิน
ซึ่งพิมพ์ทั้งหมด 300 ซอง สมาคมนำแจกจ่ายกรรมการ
และผู้ร่วมบุญอื่น 100 ซอง ส่วนอีก 200 ซอง
มอบให้วัดแจกจ่ายให้แก่กรรมการ ซึ่งรายชื่อกรรมการส่วนใหญ่แม่ชี
เป็นผู้มอบรายชื่อให้นายกสมาคม
ในในฎีการะบุช่องทางการทำบุญว่า 2.1 ผ่านผู้เป็นสะพานบุญ 2.2
โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี วัดศาลาถอย บัญชีเลขที่ 803-0-27726-1
(เลขบัญชีธนาคารคุณยิ้มเป็นผู้ส่งให้เลขาทางเมสเซนเจอร์) 2.3
โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี สมาคมชาวจังหวัดชุมพร บัญชีเลขที่
930-021908-7
ขอเรียนเพิ่มเติมว่า ปีนี้สมาคมชาวจังหวัดชุมพร
ทำการทอดกฐิน 2 แห่ง คือวัดแหลมปอ อำเภอสวี และวัด ศาลาลอย
อำเภอเมือง สมาคมจึงได้ทำหนังสือเชิญชวนให้ร่วมเป็นเข้าภาพทอดกฐินสามัดก็ทั้งสองวัดดังกล่าว
โดย
ระบุว่า ท่านใดร่วมเป็นเจ้าภาพ 1.
ทอดกฐินวัดแหลมปอ อำเภอสวี โปรดโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี วัดแหลมปอ
บัญชี เลขที่ 823-1-19655-2 2.
ทอดกฐินวัดศาลาลอย อำเภอเมือง โปรดโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี
วัดศาลาลอย บัญชี เลขที่ 803-0-27726-1 3.
ทอดกฐินทั้ง 2 วัด และร่วมสมทบทุนการศึกษา โปรดโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ
ชื่อบัญชี สมาคม ชาวจังหวัดชุมพร บัญชีเลขที่ 930-0-21908-7
สมาดมชาวจังหวัดชุมพร
จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
1. กรณี ผ้าไตรผืนเดียว พุ่มก็ไม่มี ขอเรียนว่า
สมาคมได้ดำเนินการตามพุทธบัญญัติครบถ้วนทุกประการแล้ว และพุ่มก็นำมาด้วยโดยพันโท
พิทยาคม พงษ์สุวรรณ์ นำพุ่มมาร่วมเป็นเงิน 10,000 บาท ส่วนเงินที่โอนเข้า บัญชีวัครวม
51 ราย เงิน 70,370 บาท
(เงินอำนานนี้ก็เป็นเงินทอดกฐินจำเป็นด้วยหรือที่ต้องท่าเป็นพุ่ม) และยังมี บริวารกฐินเป็นเก้าอี้อีก
50 ตัว
2. กรณี กฐินวัดศาลาลอย
กฐินได้เป็นล้านแต่โอนให้ทางวัดเพียงแสนสองหมื่นบาท ที่เหลือประธานพาหนี ขอเรียนว่า
นายกสมาคม กรรมการ และเลขา รับเงินสดจากผู้ร่วมบุญทั้งสิ้นรวม 35 ราย เงิน จำนวน
60,958 บาท เงินจำนวนนี้จ่ายเป็นค่า 2.1
ค่าองค์กฐินตามพุทธบัญญัติ จำนวน 9,720 บาท 2.2 ค่าทำป้ายประชาสัมพันธ์ จำนวน
2,800 บาท 2.3 ค่าต้มใบกะพ้อ จำนวน 5,000 บาท 2.4
ค่ามโนราห์ จำนวน 8,000 บาท 2.5 ค่าเครื่องเสียง จำนวน 3,000 บาท 2.6
ค่าถวายพระรูปละ 400 บาท 30 รูป และ 500 บาท 1 รูป รวมเงิน 12,500 บาท 2.7
รวมจ่ายทั้งสิ้น 41,020 บาท คงเหลือเงินสด จำนวน 19,938 บาท
หากนายกสมากมจะหอบเงินหนีก็ดีก็มี เพียงเท่านี้ แต่นายลือชัย มณีศรี
กรรมการและเลขาธิการ ได้แจ้งในอุโบสถหลังมอบเงินทุนการศึกษาและก่อนการ ทอดกฐินว่า
มีเงินกฐินเข้าบัญชีวัดไปแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือเงินสดที่เหลือ
และยังมีเงินที่เข้าบัญชีสมาดมซึ่ง จะต้องแบ่งให้วัดแหลมปอด้วย
โดยจะโอนให้วัดในวันที่ 22 ตด.67 เนื่องจากวันที่ 21 ตค.67 ต้องเดินทางเข้า กทม. แล้วต้องตรวจสอบ
บัญชีสมาคมโดยละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน 2.8 รวมเงินเข้าบัญชีวัด 3
ยอดโดยการโอน คือ 2.8.1 เงินโอนโดยตรงจากผู้ร่วมบุญ 51 ราย เงิน
70,370 บาท 2.8.2 เงินที่เหลือตามข้อ 2.7 เงิน 19,938
บาท 2.8.3
เงินจากบัญชีสมาคมแบ่งแล้วได้ เงิน 32,475 บาท 2.8.4
รวมเงินโอนเข้าบัญชีวัด 122,783 บาท 2.8.5
รวมยอดกฐินปีนี้ทั้งสิ้น จำนวน 633,293 บาท
3. กรณี
นำไปลงเฟสบุ๊ค ว่า กฐินวัดดังจังหวัดชุมพร ประธานเชิดเงิน
การท่าบุญทุกวันนี้ต้องมีวิจารณญาณ
นะคะ ไม่ควรเอาตราวัดไปหากิน
เรื่องนี้จากการหาข่าวทราบว่า กรรมการวัดเป็นผู้ให้ข้อมูลให้นำไปลงเฟสบุ๊ค แค่
ไม่ทราบว่าเป็นกรรมการท่านใด
สำหรับจำนวนเงินที่เหลือมีเพียง 19.938 บาท เท่านั้น ตามข้อ 2.7 4. กรณี
กฐินทิพย์ เป็นการล้อเลียนเหมือนการเมืองเสียมากกว่า เพราะสมาคมได้ดำเนินการตามข้อ
1 แล้ว 5. กรณี
ทำไมเงินทำบุญกฐินต้องแบ่งครึ่ง กรณีนี้เป็นไปตามหนังสือเชิญชวนของสมาคมข้อ 3
ที่ระบุว่า "ทอดกฐินทั้ง 2
วัด และร่วมสมทบทนการศึกษา โปรดโอนเข้าบัญชีรนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี สมาคมชาวจังหวัดชุมพร"
สมาคมจึงต้องแบ่งให้ทั้ง 2 วัด
ประกาศ ณ วันที่ 12
พฤศจิกายน 2567 ลงนาม
พลเอก ไพโรจน์ นาคฉัตรีย์ นายกสมาคมชาวจังหวัดชุมพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น