ชุมพร - มือปืนบุกยิงเสี่ยฟาร์มวัว ดอดมอบตัวพร้อมทนาย ขอให้การชั้นศาล
จากกรณีคนร้ายบุกยิงเจ้าของฟาร์มวัวหัวหมอดับคาบ้านพัก นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดนาน 2 วัน หลังอดีตภรรยาเข้ามาทำอาหารให้กินพบแต่พบเป็นศพ ปมขัดแย้งคนตายปล่อยวัวเข้ากินพืชสวนทุเรียนสวนพืชไรในพื้นที่จนมีปากเสียงและผู้เสียหายหลายรายทนไม่ไหวโดยแจ้งว่าให้ไปฟ้องศาล
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.67 เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ชินวงศ์ อินทร์ทอง สว.(สอบสวน)สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุพบคนถูกยิงนอนจมกองเลือดเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 102 หมู่ 12 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร ทราบชื่อ นาย นิยม สัญฐาน อายุ 63 ปี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.สวี รับทราบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อม ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชุมพร และแพทย์เวรโรงพยาบาลสวี หน่วยกู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตสวี ตามข่าวที่นำเสนอมาตามลำดับแล้วนั้น
ในช่วงเวลา 10:00 น ของวันที่ 30 ตุลาคม 2561 ที่สถานีตำรวจสวีอำเภอสวีจังหวัดชุมพร พ.ต.อ. วิษณุสุรัสวดีผู้กำกับสถานีตำรวจสวี เปิดเผยว่านายสุนันท์ (นามสมมุติ) อายุ 62 ปีซึ่งเป็นเจ้าของสวนทุเรียนที่อยู่ติดกับฟาร์มวัวของผู้ตายได้เดินทางมายังโรงพักพร้อมด้วยทนายความแจ้งความประสงค์ขอเข้ามอบตัวในคดียิงนายนิยม สัณฐาน ถึงแก่ความตาย พนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวไปสอบปากคำทันทีพร้อมด้วยทนายความที่เดินทางมาด้วยการสอบปากคำเป็นไปอย่างเคร่งเครียดและไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังหรือสังเกตการณ์แต่อย่างใด ใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 3-4 ชั่วโมงและการให้ปากคำเพื่อสอบปากคำตอบในช่วงบ่ายของวันนี้เบื้องต้นตำรวจเล่าเพียงแต่ว่าผู้ต้องหาขอให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้นซึ่งก็จะได้ควบคุมตัวและนำตัวส่งไปฝากขังและส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
พันตำรวจเอก วิษณุ สุรัสวดี ผู้กำกับสถานีตำรวจสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่าตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาที่มามอบตัวว่าฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนพกพาอาวุธปืนไปตามทางสาธารณะและหมู่บ้านส่วนอาวุธปืนที่ผู้ต้องหานำมามอบให้กับตำรวจและบอกว่าเป็นอาวุธที่ใช้ในการสังหารคนตายนั้นเป็นอาวุธปืนขนาด จุด 38 ลูกโม่ยี่ห้อรูเกอร์แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต้องรอผลการพิสูจน์ผ่าศพเอาหัวกระสุนออกมาจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีก่อนถ้าเป็นขนาด .38 เหมือนกันจะได้ส่งไปเข้าสู่ขบวนการเปรียบเทียบกับหัวกระสุนอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสาเหตุของการสังหารนั้นเป็นเรื่องของการบันดาลโทสะ โดยเคยมีปัญหากับผู้ตาย ที่ปล่อยวัวเข้าไปกินต้นทุเรียน ในสวนของผู้ต้องหา ที่ต้นทุเรียนที่ยังเล็กๆอยู่ ต่อมาได้มีการตกลงในเรื่องค่าเสียหายของต้นทุเรียนไปแล้วแต่ผู้ตายจ่ายไม่ครบและยังเกิดเหตุวัวเข้าไปกินต้นทุเรียนครั้งใหม่อีก คาดว่าน่าจะมีคำพูดที่ทำร้ายจิตใจของผู้ต้องหาด้วยในส่วนของการดำเนินการกับผู้ต้องหาในชั้นตำรวจเมื่อสอบปากคำเบื้องต้นเสร็จแล้วก็จะได้นำตัวไปฝากขังและคัดค้านการประกันตัว ซึ่งญาติสามารถยื่นประกันตัวในชั้นศาลและอยู่ในดุลพินิจของศาล
นางสาว เบญจพร จันทร์ช่วงอายุ 62 ปี อดีตภรรยาของผู้ตายบอกกับผู้สื่อข่าวว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ามอบตัว ซึ่งเมื่อทราบว่าตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วก็ถือได้ว่าเป็นการทำหน้าที่ของตำรวจที่น่าชื่นชมที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วและสามารถทำหน้าที่ตรงตามปากคำของพยานที่ได้ให้การไว้กับตำรวจ และมีความมั่นใจว่าเป็นคนๆเดียวกับที่สามีซึ่งเป็นผู้ตายได้บอกไว้ก่อนที่จะถูกยิงตายและนำภาพมาให้ภรรยาดูก่อนจะถูกยิงตายด้วยชื่อนายสุนันท์ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนของตนสมัยที่เรียนหนังสือที่โรงเรียนระดับมัธยมใน อำเภอสวี ที่เดียวกัน ในระดับ มัธยมศึกษาปีที่ 3 และรู้สึกเสียใจที่เป็นเพื่อนเรียนหนังสือมาด้วยกันไม่น่าจะลงมือทำกันถึงขนาดนี้
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น