ชุมพร - หัวใจสลาย ดับ 1 ราย แข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง หลังเข้าเส้นชัยเรือพุ่งชนกำแพงปูนริมเขื่อนแตกพาร่างฝีพายจมหายไปกับสายน้ำพบเป็นศพไกลกว่า 500 ม.
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 6 พ.ย.65 ร.ต.อ.ไพรัตน์ สิงห์พรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในคลองวังปลา หมู่ 5 ตำบลช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุอยู่ริมคลองวังปลาภายในสวนทุเรียนของชาวบ้าน กู้ภัยทางน้ำของมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์นำร่างขึ้นฝั่ง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นาย ภูริพัฒน์ บุญพัฒน์ อายุ 21 ปี โดยมีพ.ต.อ.สมพล บูรณเทศ ผกก.สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกบริเวณที่เกิดเหตุเนื่องจากมีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันญาติของผู้เสียชีวิตต่างกอดกันร่ำให้อย่างโศกเศร้าเสียใจ โดยเฉพาะนายสุนันท์ บุญพัฒน์ เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลช่องไม้แก้ว (ส.อบ.ต.)และเป็นรองประธานสภา นั่งเฝ้าร่างลูกชายไม่ห่าง ซึ่งร่างผู้เสียชีวิตสวมชุดแข่งขันเรือยาว ไม่พบร่องรอยบาดแผลบนร่างกายแต่อย่างใด หน่วยกู้ภัยจึงน้ำศพผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาลทุ่งตะโกเพื่อให้แพทย์ชันสูจน์พลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนทราบว่า วันดังกล่าวมีงานประเพณีแข่งขันเรือยาว 8 ฝีฟาย ขึ้นโขนชิงธง ตำบลช่องไม้แก้ว ประจำปี 2565 บริเวณอาคารอัดน้ำบ้านวังปลา หรือเขื่อนบ้านวังปลา หมู่ 5 ตำบลช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร จัดงานตั้งแต่วันที่ 6-8 พ.ย.นี้ ซึ่งในวันเกิดเหตุเป็นวันแรกของงานประเพณี
โดยตลอดทั้งวันจะมีการแข่งขันเรือยาวจาก 8 หมู่บ้านของตำบลช่องไม้แก้ว มีการออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหารการกิน มีชาวบ้านเดินทางเข้ามาภายในงานเป็นจำนวนมาก พร้อมชมการแข่งขันและส่งเสียงเชียร์เรือยาวกันอย่างสนุกสนาน
ก่อนเกิดเหตุทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ บ่าย 2 โมงเศษ ผู้เสียชีวิตเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันเรือยาว 8 ฝีฟายของหมู่ที่ 2 แข่งขันกับเรือยาวของหมู่ที่ 3 และเป็นคู่ที่ 6 รอบที่ 2 ซึ่งทั้งสองลำจ้ำฝีพายกันอย่างไม่มีใครยอมใครซึ่งเป็นไปอย่างสูสีกัน แต่ปรากฏว่าเรือของหมู่ที่ 3 เป็นฝ่ายชนะอย่างเฉียดฉิว
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า จังหวะที่ทั้งสองลำผ่านเส้นชัยไปแล้วนั้น เรือของหมู่ที่ 2 ได้เสียหลักพุ่งชนปะทะกับกำแพงปูนข้างริมเขื่อนอย่างแรงทำให้เรือแตก ฝีพายทั้ง 8 คน ตกน้ำ ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างช่วยกันโยนเชือกและห่วงชูชีพช่วยชีวิตไว้ได้ 7 คน ส่วนนายภูริพัฒน์ หรือน้องภู ถูกกระแสน้ำซัดลอยไปกับสายน้ำซึ่งมีสภาพไหลเชี่ยว โดยมีนายโกเมศ ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุวิ่งไล่ตามไปไกลประมาณ 500 เมตรเพื่อจะเข้าช่วยเหลือแต่นายภูริพัฒน์ หมดแรงจมหายไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นได้แจ้งตำรวจและกู้ภัยทางน้ำให้งมค้นหาหลายชั่วโมงด้านนางสมคิด แสงเมือง อายุ 70 ปี เป็นป้าของนายภูริพัฒน์ จุดธูปเทียนบนสันเขื่อน ไหว้อธิฐานให้พบหลานโดยเร็ว หลังจากนั้นกู้ภัยพบศพห่างจากจุดที่จมหายประมาณเพียง 50 เมตร
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น