‘ส.ส.กทม.’ พรรคพลังประชารัฐ ร่วมแสดงจุดยืน ดันร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ แก้ PM 2.5 ดูแลประชาชน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2564 ณ ห้องแถลงข่าวรัฐสภา นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.เขต 30 ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตราชเทวี-พญาไท-จตุจักร และ ส.ส.กทม.พปชร.ร่วมแสดงจุดยื่นต่อการยื่นร่างแก้ไขพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ……… เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร
นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตราชเทวี-พญาไท-จตุจักร พปชร. กล่าวว่า การแสดงจุดยืนเพื่อเสนอยื่นร่างแก้ไขพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ……… เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาใน 3 ประเด็นได้แก่ 1.เป็นการยืนยันว่าอากาศสะอาดเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน หากเกิดการละเมิดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ประชาชนสามารถฟ้องร้องเอาผิดรัฐได้ 2.เป็นการบูรณาการทุกหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนให้ทำงานร่วมกัน จากเดิมกระจัดกระจายหลายหน่วยงาน และขาดการมีส่วนร่วมจากปชช. และ 3.เพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่น (จังหวัด,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)สามารถจัดการปัญหาของตนเองได้โดยไม่ต้องรอการตัดสินใจจากส่วนกลางโดยร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระงบประมาณแก่ประเทศ แต่เป็นการรวบรวมทุกหน่วยให้ทำงานร่วมกันภายใต้คณะกรรมการอากาศสะอาด
“ที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมือง รวมถึงประชาชนเคยมีการยื่นแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ถูกตีตกไป ส่วนการที่พปชร.ได้มาเสนอยื่นร่างแก้ไขในครั้งนี้เหตุใดก่อนหน้าไม่ยื่นเพราะเราได้รอสนับสนุนร่างของภาคประชาชนอยู่ซึ่งนายกฯท่านเองก็สนับสนุนแต่ก็ไม่ผ่านการพิจารณาของทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เพราะมีข้อจำกัดทางกฏหมาย ดังนั้นเราในฐานะส.ส.พปชร.จึงหยิบยกมาแก้ไขและปรับปรุงและยื่นในครั้งนี้และปรับชื่อร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดเป็น ‘ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อประชาชน’ เพราะเรามุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากฝุ่น PM2.5 ให้กับประชาชนเป็นสำคัญ” น.ส.ภาดาท์ฯ กล่าว
นอกจากนี้ยังจะมีการเสนอแนะหน่วยงานเพิ่มเติมที่รับผิดชอบดังต่อไปนี้ 1. ขอให้พิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.อากาศสะอาดอย่างเร่งด่วน เพื่อกำหนดมาตรการและบทลงโทษ และประกาศใช้ให้เร็วที่สุด 2. ขอให้ภาคขนส่งของรัฐนำร่อง เปลี่ยนรถยนต์จากเครื่องยนต์สันดาบ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เร็วที่สุด 3. กำหนดบทลงโทษที่หนัก โดยเฉพาะผู้ที่ลักลอบเผาป่า และ 4. สร้างแรงจูงใจอย่างป็นรูปธรรมสำหรับทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ที่รับผิดชอบ ทั้งกรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อพิจารณาและดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนคนไทยมีอากาศที่สะอาดไว้ใช้หายใจต่อไป
✍️รับข่าวสาร กดติดตาม พรรคพลังประชารัฐ เพื่ออัพเดท ข่าวสารของพรรคพลังประชารัฐ
https://twitter.com/pr_pprpthailand
https://www.blockdit.com/pprp
https://www.facebook.com/PPRPThailand/
ธนากร โกศลเมธีรายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น