ชุมพร - ท่อน้ำมันยักษ์เกยหาด อ.ปะทิว บริษัทเจ้าของท่อ
ยอมรับผิดชอบชดใช่ค่าเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
วันที่ 2 ตุลาคม 2562 เวลา 13.30 น.บริษัท Binh Son Refining & Petrochemical Company
(BSR) เข้าดำเนินการจัดเก็บ ท่อน้ำมันยักษ์ จำนวน 14 ท่อน น้ำหนักท่อนละ 3
ตัน รวมกว่า 42 ตัน ถูกขนย้ายด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ จากที่เก็บ บริเวณที่พักสายตรวจ
สภ.ต.มาบอำมฤต หมู่ที่ 5 ต.ปากคลอง
อ.ปะทิว จ.ชุมพร เพื่อนำไปย่อยสลายและทำลาย ที่โรงงานบริษัทโปรเฟสชั่นเนล
เวสต์ เทคโนโลยี (1999)จำกัด (มหาชน) โรงงงานกำจัดซากอุตสาหกรรมตั้งอยู่ที่ 234/2
หมู่ที่ 4 ตำบลโนนหมากเด็ง อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว โดยนำไปนำไปย่อยสลายและทำลายและฝังกลบเป็น
วิธีการจัดการท่อน้ำมันที่ดำเนินมากว่า 1 ปีครึ่ง
บริษัทกุลดา อินเตอร์เทรด จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทประสานงานในการขนย้ายท่อน้ำมัน
หน่วยงานที่เข้าร่วมการย้ายท่อน้ำมันยักษ์ทั้ง 14 ท่อน คือ
สำนักงานพลังงานจังหวัดชุมพร ร่วมกับหน่วยราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง จำนวน 12 หน่วยงาน เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ โดยมี
นายทองรัตน์ วรรณนุช พลังงานจังหวัดชุมพร
นายสัญญา แสงเจริญกุล ผู้แทนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคชุมพร Ms.Nguyen
Hoang Tom ผู้แทนจาก
โรงกลั่น Binh Son Refining & Petrochemical Company
(BSR) ประเทศเวียดนาม
นายทองรัตน์
วรรณนุช พลังงานจังหวัดชุมพร กล่าวว่า
ท่อน้ำมันทั้งหมด จะถูกส่งไปทำลายที่ โรงงานบริษัท โปรเพสชั่นเนล เวสต์ เทคโนโลยี
(1999) จำกัด (มหาชน) ที่ 234/2 หมู่ที่ 4
ตำบลโนนหมากเด็ง อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เพื่อทำลายให้ถูกต้องตามหลักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม
สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น บริษัท Binh Son Refining &
Petrochemical Company (BSR) ประเทศเวียดนาม ยินดีชำระทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ซึ่งประกอบด้วย ค่าขนย้าย จากริมหาด
มายังที่เก็บ ค่ากำจัดขยะ ค่าตรวจวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ต้องจ่ายให้กับ บริษัท ปตท.จำกัด จำนวน 1.7 ล้านบาท
ค่าดูแลรักษา ให้กับ สภ.ต.บ้านมาบอำมฤต 2.2 แสนบาท ค่าประเมินสภาพซากทรัพย์สิน 1 หมื่นบาท
ค่าเสียหาย บริเวณที่ดิน สวน และถนน ชาวบ้าน ขณะขนย้าย 1.6 แสนบาท รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 2,167,513.50
บาท การจัดการกับท่อน้ำมันยักษ์
14 ท่อน ใช้เวลาดำเนินการยาวนานกว่า 1 ปี ครึ่ง
โดยท่อน้ำมันทั้งหมดถูกคลื่นซัดมาเกยหาด บ้านบางเบิด ม.5 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว
จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 12 ก.พ.61 จังหวัดชุมพรและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องพยายาม
หาแนวทางจัดการตามกฎหมายและระเบียบที่มีอยู่ เนื่องจาก กรณีดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยมีลำดับ สรุปได้ดังนี้ เมื่อ
เดือน ส.ค.61 บริษัท McLarens แม็คลา
เรนส์(ประเทศไทย)จำกัด และ บริษัท แม็คลาเรนส์ สำนักงานสาขาประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทผู้ประเมินวินาศภัย ในนาม ของ บริษัทผู้รับประกันภัย พีวีไอ อินชัวรันส์ คอร์ปอเรชั่น (PVI Insurance Corporation) ประเทศเวียดนาม แจ้งขอเข้าตรวจสอบท่อน้ำมัน ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาด บ้านบางเบิด ม.5 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร เพื่อดูว่า เป็นส่วนของท่อส่งน้ำมีนของ โรงกลั่น Binh Son Refining & Petrochemical Company (BSR) ประเทศเวียดนาม ที่ขาดออกจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกกลางทะเล ระหว่างเหตุลมพายุเมื่อปลายปี 2560 ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้กับบริษัทผู้รับประกัน ต่อมาทางบริษัทได้แจ้งว่า ท่อน้ำมันทั้งหมดเป็นของบริษัท Binh Son Refining & Petrochemical Company (BSR) พร้อมกับได้ประสานงานกับทางจังหวัดชุมพรเพื่อรับผิดชอบในการนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีเพื่อไปให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยทางบริษัทยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และได้มอบหมายให้ บริษัทกุลดา อินเตอร์เทรด จำกัด ทำหน้าที่ในการประสานงาน ระหว่างจังหวัดชุมพร กับบริษัท Binh Son Refining & Petrochemical Company (BSR) ประเทศเวียดนาม จนได้ข้อสรุปและนำมาสู่การขนย้ายท่อน้ำมันทั้งหมดไปทำลายดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.พ.61 สำนักงานพลังงานจังหวัดชุมพร สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ชุมพร อำเภอปะทิว ร่วม กับ กลุ่ม ปตท.ทำการเคลื่อนย้ายท่อน้ำมัน ออกจากหาดบางเบิด อ.ปะทิว จ.ชุมพร มาเก็บรักษาไว้ที่ ที่พักสายตรวจ สภ.ต.มาบอำมฤต อ.ปะทิว ห่างจากจุดเกยหาดประมาณ 25 กม. ส่วนผลการตรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อมบริเวณหาดบางเบิด จุดที่ท่อน้ำมันขึ้นเกยหาด สรุปว่า ไม่พบสารตกค้างหรือสารพิษแต่อย่างใด
ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวจังหวัดชุมพร 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น