วันทหารผ่านศึก
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 ณ
พระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
กรมหลงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ค่ายเขตอุดมศักดิ์ โดยพลตรี อุดมวิทย์ อโนวัลย์
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา
พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และทหารผ่านศึก เข้าร่วมวางพวงมาลา
เพื่อเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกและทำบุญอุทิศส่วนกุศลระลึกถึงคุณงามความดีที่เหล่าทหารผู้กล้า
ผู้ซึ่งประกอบวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ด้วยความเสียสละเลือดเนื้อ
และชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยและเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารผ่านศึกประจำการที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่ต่างๆ
โดยวันทหารผ่านศึกตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เนื่องจากที่ผ่านมาไทยได้ผ่านสงคราม มากมายหลายครั้ง
นับตั้งแต่กรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส สงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่
2 สงครามเกาหลี เวียดนาม
และการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทำให้มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดประจำการ
จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่กลับจากปฏิบัติการรบ
และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบ
ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น
โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่
3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 จึงได้ยึดเอาวันที่
3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก
สำหรับประเทศไทยแล้ว ได้จัดทำดอกป๊อปปี้
เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึก เกิดจากดำริของ ท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร
ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก
หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน
ที่ต้องการจะดำเนินการหาทุนมาช่วยเหลือทหารและครอบครัวทหารผ่านศึก
ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ จึงได้เลือกเอาดอกป๊อปปี้สีแดง
ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส
สมรภูมิเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน
ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสงครามในครั้งนั้น ทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด
จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวง ณ
สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่ทั่วไป
ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอก ป๊อปปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก
เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น