พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.

พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
ถวายพระพร

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ
ทิป บ๊อก สนับสนุน เว็บ Pages

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568

กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา กระทุ้งรัฐบาลเปิดอภิปรายทั่วไปถกปัญหาไทย-กัมพูชา ลั่นไม่ยอมเสียดินแดนในศาลโลกครั้งที่ 3 ชี้ภาสะปั้นำอ่อนแอไม่ทันเกมระหว่างประเทศ ทำไทยเสียท่าเสียเกียรติภูมิ

 

กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา กระทุ้งรัฐบาลเปิดอภิปรายทั่วไปถกปัญหาไทย-กัมพูชา ลั่นไม่ยอมเสียดินแดนในศาลโลกครั้งที่ 3 ชี้ภาสะปั้นำอ่อนแอไม่ทันเกมระหว่างประเทศ ทำไทยเสียท่าเสียเกียรติภูมิ

 

 


 

 

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่ง สว.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำโดยพลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธาน กมธ. พร้อมด้วยพลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ร่วมกันแถลงข่าวกรณี สว.ออกแถลงการณ์เรื่อง “ขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา” โดยสรุปว่า จากเหตุการณ์กระทบกระทั่งบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ซึ่ง กมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ประณามการกระทำที่ขาดความจริงใจ ไร้ความเป็นมิตรเยี่ยงประเทศเพื่อนบ้านพึงมีต่อกันของฝ่ายกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 ไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 9 และ 10 มิ.ย. 2568 กมธ.ได้เดินทางเข้าพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้เห็นภูมิประเทศจริงและรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ใช้โอกาสนี้พบปะเยี่ยมเยียนเพื่อแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่พิพาท รวมทั้งกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติตามแนวชายแดนด้วยความเข้มแข็ง

 

 

 


 

จากสภาพปัญหาอันสลับซับซ้อนและความตึงเครียดที่สะสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จึงต้องการรายละเอียดและการปฏิบัติอย่างรอบคอบ ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลครบทุกด้าน กมธ.จึงได้จัดการถกแถลงทางวิชาการในประเด็น “เราจะรักรักษาแผ่นดินไทยอย่างไร” เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2568 เป็นการเน้นย้ำว่า ปราสาททั้งหลายที่อยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาล้วนอยู่ในความครอบครองของไทยมาหลายร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นปราสาทเขาพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ฯลฯ แต่การที่เราแพ้คดีในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกถึง 2 ครั้ง มาจากความไม่เที่ยงธรรม

 

 

 

ดังนั้น เราจะไม่ยอมเสียดินแดนในศาลโลกเป็นครั้งที่ 3 อีก ซึ่งจากการถกแถลงดังกล่าวโดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้สรุปเรื่องนี้ไว้ว่า ผู้นำรัฐบาลต้องแสดงท่าทีของการเป็นผู้นำประเทศให้แข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่ การใช้กลไกทวิภาคีเพื่อแก้ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นเรื่องที่เหมาะสม และเมื่อจำเป็นควรยกระดับขึ้นใช้กลไก ASEAN จัดการกับฝ่ายกัมพูชา เนื่องจาก ASEAN ยึดถือหลักการสำคัญคือ สันติภาพและความเป็นกลาง และมีเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขตแห่งสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Zone of Peace, Freedom and Neutrality - ZOPFAN)

 

 


 

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา วุฒิสภาได้ออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ให้ดำเนินการกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภา เป็นการประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อประชาชนทั้งประเทศ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบจากทางรัฐบาล ทั้งนี้ วุฒิสภามีสิทธิเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 153 ดังนั้น กมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา จำต้องอาศัยอำนาจตามบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 153 ที่กำหนดให้ “สมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา มีสิทธิเข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ” ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาได้เสนอแนวคิดและแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้รัฐบาลได้นำไปเป็นข้อพิจารณาประกอบการตัดสินใจโดยเร็วต่อไป

 

 

 

พร้อมระบุการที่ผู้นำรัฐบาลเพิกเฉยไม่โต้ตอบฝ่ายกัมพูชา และไม่กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ทำให้การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 ที่ผ่านมาล้มเหลว ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ กับฝ่ายไทย และฝ่ายกัมพูชายังฉวยโอกาสออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าว คือ ประเด็นที่กัมพูชาจะนำเรื่องพื้นที่พิพาท 4 จุดเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก และการใช้แผนที่ 1 : 200,000 เพื่อกำหนดเขตแดน ตลอดจนความอ่อนด้อยในเกมการเมืองระหว่างประเทศของผู้นำรัฐบาลไทย ความล่าช้าของนโยบายที่ทำให้การปฏิบัติของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่ทันเวลา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนสิ้นศรัทธาในผู้นำรัฐบาล

 

 

 

ประธาน กมธ.การทหารฯ ย้ำว่า จากเหตุการณ์ต่าง ๆ และสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การที่นายกรัฐมนตรี ขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลกระทบในทางลบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย หากปล่อยปละละเลยให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้ตามอำเภอใจ อาจทำให้อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยถูกรุกล้ำและยึดครอง กมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา จึงมีความเห็นว่า วุฒิสภาสมควรเปิดอภิปรายทั่วไปดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดย กมธ.จะมีหนังสือกราบเรียนประธานวุฒิสภาต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชุมพร – ปิดการแข่งขันกีฬาฟุตซอล กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร Supper cup

 ชุมพร – ปิดการแข่งขันกีฬาฟุตซอล กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร Supper cup วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2568   พันตำรวจเอก ปัญญา ท้วมศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจ...