พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.

พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
ถวายพระพร

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ
ทิป บ๊อก สนับสนุน เว็บ Pages

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ชุมพร – นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยลงพื้นที่ ชายแดนไทย - เมียนมา ช่องหินดาด ตำบลรับร่อ และช่องหินหมู บ้านพันวาล อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร

 ชุมพร – นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยลงพื้นที่ ชายแดนไทย - เมียนมา ช่องหินดาด ตำบลรับร่อ และช่องหินหมู บ้านพันวาล อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร

คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ชายแดนไทย บริเวณอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ติดตามปัญหาผลกระทบด้านความมั่นคงตามแนวชายไทยที่ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร

วันนี้(29 มิ.ย. 68) คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรนำโดย นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ, นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายยูนัยดี วาบา โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายรอมฎอน ปันจอร์ กรรมาธิการ,นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ เลขานุการคณะกรรมาธิการ,นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี และคณะ ลงพื้นที่ชายแดนไทย บริเวณอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เพื่อศึกษาดูงาน พร้อมติดตามปัญหาผลกระทบด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนไทยที่ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยมีว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร, นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร, นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลในพื้นที่

คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงพื้นที่ชายแดน บริเวณช่องทางผ่านแดนไทย - เมียนมา ช่องหินดาด ตำบลรับร่อ และช่องหินหมู บ้านพันวาล อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โดยได้ติดตามปัญหาผลกระทบด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนไทยที่ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อติดตามสถานการณ์และรับทราบปัญหา ความมั่นคงชายแดนไทยที่ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร และการบริหารจัดการในพื้นที่ชายแดน จังหวัดชุมพร อาทิ สถานการณ์การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ การลักลอบนำเข้าปาล์มและยางพารา สถานการณ์การหลบหนีเข้าเมืองของชาวโรฮิงญา พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินการของหน่วยงาน และแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตลอดจนแนวทางผลักดันด่านตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ชุมพร –  ลูกเรือประมง ลงห้องเก็บปลา เจอแก๊สเหม็นเน่า ขาดอากาศหายใจดับ 3 ศพ อาการโคม่า 1 ราย

 ชุมพร –  ลูกเรือประมง ลงห้องเก็บปลา เจอแก๊สเหม็นเน่า ขาดอากาศหายใจดับ 3 ศพ อาการโคม่า 1 ราย

 

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 28 มิถุนายน 2568 ร.ต.อ.(หญิง)พรอุมา แก้วประดิษฐ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.ปากน้ำชุมพร ได้รับแจ้งมีลูกเรือประมง หมดสติอยู่ในห้องเก็บปลาในเรือประมงชื่อ เรือสังข์วัฒนา 5 ขณะเรือจอดอยู่ที่แพปลา หมู่ 8 ตำบลปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย

ที่เกิดเหตุพบเรือประมงลำดังกล่าวจอดอยู่ที่แพปลา ตรวจสอบภายในห้องเก็บปลาซึ่งเป็นปลาผสมหลายชนิด ที่ชาวประมงเรียกว่าปลาไก่ หรือปลาป่น สำหรับส่งเข้าโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ภายในห้องเก็บปลาดังกล่าว มีลูกเรือประมงหมดสติอยู่ 4 คน ทราบชื่อภายหลังคือ 1. นายปราโมทย์ สมรูป อายุ 33 ปี  2.นายน้อย เจริญสุข อายุ 45 ปี  3.นายวีรยุทธ สกุลีย์ อายุ 36 ปี และ 4.นายอาทิตย์ วิงสุวรรณ อายุ 28 ปี หน่วยก็ภัยรีบนำขึ้นมาปฐมพยาบาลทำ CPR เบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลปากน้ำชุมพร แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา 3 ราย

ตรวจสอบผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย คือ นายปราโมทย์ สมรูป อายุ 33 ปี  นายน้อย เจริญสุข อายุ 45 ปี  และ นายวีรยุทธ สกุลีย์ อายุ 36 ปี  เนืองจากขาดอากาศเป็นเวลานาน  ส่วนอีกคนคือ นายอาทิตย์ วิงสุวรรณ อายุ 28 ปี อาการโค่มา ยังไม่รู้สึกตัว ทั้งหมดเป็นคน อำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

จากการสอบสวนทราบว่า เรือสังข์วัฒนา 5 ได้เข้ามาจอดเทียบท่าที่แพปลาปากน้ำชุมพร จากนั้นลูกเรือทั้ง 4 คน ได้ลงไปช่วยกันขนปลาที่จับมาได้ซึ่งเป็นปลาผสมหลายชนิด หรือที่เรียกว่าปลาไก่ อยู่ในห้องเก็บปลา ที่ใช้น้ำแข็งดองไว้ เพื่อขายให้โรงงาน ซึ่งภายในห้องดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นเน่าจากปลาที่ดองน้ำแข็งเก็บไว้นานหลายวันกว่าจะเข้าเทียบท่า ทำให้เกิดเป็นแก๊สเน่า มีกลิ่นเหม็นฉุน จนเป็นเหตุให้ชาวประมงทั้ง 4 ราย ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต 3 ศพ และมีอาการโคม่า 1 รายดังกล่าว

ขณะที่พนักงานสอบสวนได้รวมรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลและเก็บพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

 

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

ชุมพร –  ตร.ทล. รวบ 2 พ่อค้ายารวม 1,764 เม็ด  ไล่กระบะไม่ติดทะเบียน  พบยาบ้าพร้อมแบ่งขาย

 ชุมพร –  ตร.ทล. รวบ 2 พ่อค้ายารวม 1,764 เม็ด  ไล่กระบะไม่ติดทะเบียน  พบยาบ้าพร้อมแบ่งขาย

วันที่ 28 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ได้สั่งการให้  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.(ชุมพร-ระนอง) นำโดย ร.ต.ท.สมบัติ  ปัตเมฆ, ว่าที่ ร.ต.ต.กุญชร บุญชัด, ว่าที่ ร.ต.ต.สุริยา ปลื้มใจ รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. และ ด.ต.พิชญะ ตัญยุชน ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.

 

จับกุม 1.นายสินทวี (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี  2.นายผดุงเกียรติ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี พร้อมด้วยของกลาง

ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) เม็ดสีส้ม ชนิดกลมแบน ประทับอักษร WY ไว้บนเม็ด จำนวน 1,746 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) เม็ดสีเขียว ชนิดกลมแบน ประทับอักษร WY ไว้บนเม็ด จำนวน 18 เม็ด   รวมทั้งหมด 1,764 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินเข้มจำนวน 9 ถุง

สถานที่จับกุม บริเวณถนนริมช่องทางด้านซ้าย ทล.41 กม.73 (ขาล่องใต้) ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 27.ย.68 เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้ออกตรวจพื้นที่ตามภารกิจในเขตรับผิดชอบ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับอยู่ในเลนขวาด้วยความเร็วผิดสังเกต จึงส่งสัญญาณให้หยุดตรวจ เมื่อรถจอดบริเวณ กม.73 ต.บ้านควน เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตนและขอตรวจค้น ภายในรถพบ นายสินทวีฯ  เป็นผู้ขับขี่ และ นายผดุงเกียรติฯ เป็นผู้โดยสาร ทั้งสองมีท่าทางลุกลี้ลุกลนแสดงความพิรุธอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก่อนทำการตรวจค้นตัวและภายในรถ ผลการตรวจค้นพบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) รวม 1,764 เม็ด แบ่งเป็น  เม็ดสีส้ม ประทับอักษร WY จำนวน 1,746 เม็ด เม็ดสีเขียว WY อีก 18 เม็ด  ทั้งหมดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินเข้ม 9 ถุง แบบกดปิด–ดึงเปิด ห่อซ้อนด้วยถุงใสและกระดาษสาสีขาว ก่อนห่ออีกชั้นด้วยถุงกันกระแทก ซุกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนในช่องกล่องฟิวส์ใต้พวงมาลัยรถด้านขวา

 

จากการสอบถาม นายสินทวี ยอมรับว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของตน โดยมีชายไม่ทราบชื่อ–สกุลจริงโทรมานัดให้ไปรับของบริเวณ ริมถนนทางไปปากน้ำตะโก ม.5 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ส่วน นายผดุงเกียรติ เป็นเพื่อนที่ร่วมทางและรู้เห็นด้วยนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามว่าทั้งสองมีการเสพยาเสพติดหรือไม่ ซึ่งทั้งสองรับสารภาพว่าเพิ่งเสพมาก่อนถูกจับกุมในช่วงเย็นวันเดียวกันจึงได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะที่ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหลังสวน ผลเบื้องต้นพบสารเสพติดในร่างกายทั้งคู่ ก่อนนำส่งตรวจยืนยันที่ โรงพยาบาลหลังสวน พบผลเป็นบวกทั้งสองรายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้จัดทำบันทึกการจับกุม พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา  ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต    เสพยาเสพติดให้โทษประประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต   เป็นผู้ขับขี่รถและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต   และควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568

“นายกสุพิศ” สืบสานวัฒนธรรมจัดงานวันลูกโหนดของคาบสมุทรสทิงพระ โชว์ฟิตแบกลูกโหนด ชูเป็นเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ประจำปีของ อบจ.สงขลา ดึงดูดคนร่วมงานคับคั่ง

 

“นายกสุพิศ” สืบสานวัฒนธรรมจัดงานวันลูกโหนดของคาบสมุทรสทิงพระ โชว์ฟิตแบกลูกโหนด ชูเป็นเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ประจำปีของ อบจ.สงขลา ดึงดูดคนร่วมงานคับคั่ง

 

 


 

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ศูนย์ราชการอำเภอสทิงพระ ตำบลจะทิ้งพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน “วันลูกโหนดและของดีสทิงพระ” ครั้งที่ 36 ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างอำเภอสทิงพระ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา โดยมีนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา สิบตำรวจตรีชัยวัฒน์ อินอ่อน นายอำเภอสทิงพระ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

 


 

 

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เปิดเผยว่า สำหรับงานวันลูกโหนดของคาบสมุทรสทิงพระถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ อบจ.สงขลา ที่ได้สนับสนุนงบประมาณจัดงานนี้ทุกๆปี อำเภอสทิงพระเป็นเสมือนบ้านเกิดของตนให้ความสำคัญประชาชนในทุกๆพื้นที่ในคาบสมุทรสทิงพระในทุกมิติ ทั้งเรื่องงานเทศกาล  สนับสนุนพัฒนาเกษตรกร ทั้งนา โหนด และ เลสำหรับงานลูกโหนด และของดีเมืองสทิงพระครั้งที่ 36 จะต้องเป็นเทศกาลที่ใหญ่ขึ้นในทุกๆปี  และตนในฐานะนายกอบจ. สงขลาขอสนับสนุนทุกกิจกรรม อย่างเต็มกำลังความสามารถ

 

 


 

นอกจากนี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลายังเยี่ยมชมบูธของดีเมืองสทิงพระพร้อมทั้งโชว์แบกลูกตาลโตนดทั้งทลาย สร้างเสียงฮือให้กับประชาชนในพื้นที่ไม่น้อย พร้อมกันนี้ยังได้อุดหนุนสินค้าของเกษตรกรในพื้นที่เพื่อสร้างกำลังใจให้กับเกษตรกรคาบสมุทรสทิงพระอีกด้วย

 

 



 

สำหรับงาน “วันลูกโหนดและของดีสทิงพระ” จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศน์ นำเสนอวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของคนในพื้นที่สู่สายตาสาธารณชน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) และสินค้าการเกษตรของอำเภอสทิงพระ

 

 





 

โดยในปีนี้กำหนดจัดระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2568 เพื่อสืบสานและอนุรักษ์วิถีชีวิต โหนด นา เล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวคาบสมุทรสทิงพระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอสทิงพระ ที่ประชาชนมีวิถีชีวิตผูกพันกับต้นตาลโตนดมาอย่างยาวนาน อาทิ การปาดตาล การเคี่ยวน้ำตาลโตนด และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำตาลปึก น้ำตาลแว่น น้ำผึ้ง ขนมหวาน รวมถึงงานหัตถกรรมจากใยตาล ใบตาล และไม้ตาล.

 

 

 

 


“วุฒิสภา” ไม่ทิ้งเกษตรกรไทย ลุยจัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย” ครั้งที่ 2 หนุนรับมือวิกฤติผลผลิตล้นตลาด ชี้ได้ 2 เด้ง ทั้งอุ้มเกษตรกรขายผลผลิตได้ แถมผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าราคาถูก ยันพร้อมช่วยเกษตรไทยจนกว่าเข้าสู่ภาวะปกติ

 

“วุฒิสภา” ไม่ทิ้งเกษตรกรไทย ลุยจัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย” ครั้งที่ 2 หนุนรับมือวิกฤติผลผลิตล้นตลาด ชี้ได้ 2 เด้ง ทั้งอุ้มเกษตรกรขายผลผลิตได้ แถมผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าราคาถูก ยันพร้อมช่วยเกษตรไทยจนกว่าเข้าสู่ภาวะปกติ

 

 


 

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่บริเวณทางเข้าอาคารรัฐสภา (ฝั่ง สว.) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา นำคณะสมาชิกวุฒิสภา แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย” จำหน่ายสินค้าเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรไทย ครั้งที่ 2 โดยมีสมาชิกวุฒิสภา นางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ผู้บริหาร บุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรม

 

 



 

 

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม โดยส่วนใหญ่ประชากรไทยมีอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก ในฤดูกาลผลิตปีนี้สภาพดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลิตผลทางการเกษตรออกมาเป็นจำนวนมาก รวมถึงเกิดสถานการณ์ด้านชายแดน ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจึงได้ดำเนินการเพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรส่งตรงจากผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภคโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้มีที่มาจาก 20 กลุ่มอาชีพ เป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพของประชาชน จึงทำให้รู้วิถีชีวิตของประชาชนว่าฤดูกาลผลิตที่ผลผลิตจะออกมาพร้อมกันทำให้ผลไม้ล้นตลาด เมื่อเกษตรกรเดือดร้อนเนื่องจากราคาผลผลิตตกต่ำ หากปล่อยไว้จะทำให้ได้รับความเสียหาย

 



 

 

จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย” ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรไม่ขาดทุน สามารถขายผลผลิตได้ ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าในราคาถูก ยืนยันว่า จะนำผลผลิตทางการเกษตรเพื่อมาจัดจำหน่ายที่รัฐสภาจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติตามกลไกของตลาด และเชื่อว่าหลังจากนี้หลายกระทรวง หลายหน่วยงาน รวมถึงหอการค้าแต่ละจังหวัด จะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

 

 

 



 

ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหาร พร้อมด้วยบุคลากรสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสื่อมวลชน ได้ร่วมอุดหนุนผลไม้ที่นำมาจำหน่ายในครั้งนี้ ได้แก่ ทุเรียนน้ำแร่จากจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 600 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 120 บาท และมังคุดจากจังหวัดจันทบุรี จำนวน 2,300 กิโลกรัม กล่องละ 5 กิโลกรัม ในราคา 175 บาท.

กมธ.ไอซีที วุฒิสภา เกาะติดดูงานญี่ปุ่นต่อเนื่อง เน้นการพัฒนาเทคโนโลยียานปล่อยจรวด ระบบขนส่งอวกาศ และเทคโนโลยีดาวเทียมปรับใช้ในไทย

 

กมธ.ไอซีที วุฒิสภา เกาะติดดูงานญี่ปุ่นต่อเนื่อง เน้นการพัฒนาเทคโนโลยียานปล่อยจรวด ระบบขนส่งอวกาศ และเทคโนโลยีดาวเทียมปรับใช้ในไทย

 


 

 

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม (ไอซีที) วุฒิสภา นำโดยนายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ เดินทางไปประชุมทวิภาคีและเยือนญี่ปุ่นด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ณ ศูนย์อวกาศทสึคุบะขององค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA’s Tsukuba  Space Center (TKSC)) ในประเด็นการพัฒนาเทคโนโลยียานปล่อยจรวด  และระบบขนส่งอวกาศ แนวทางความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียม

 

 

 





 

หลังจากนั้น ได้เดินทางไปประชุมทวิภาคีร่วมกับ Ms. FUKUDA Haruyo, Director, Smart City Strategy และ Mr. KOJIMA Tetsu, Director, Connecting Tokyo Promotion ณ ศาลาว่าการกรุงโตเกียว ในประเด็นความร่วมมือด้าน 5G และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและความร่วมมือด้าน IoT และ Smart City Ms. FUKUDA Haruyo ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์เมืองอัจฉริยะ (Smart City Strategy Division) Mr. KOJIMA Tetsu ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการเชื่อมต่อโตเกียว (Connecting Tokyo Promotion Division)ให้การต้อนรับและหารือประเด็นความร่วมมือด้าน 5G, IoT, โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

 

 





 

จากการเดินทางไปประชุมทวิภาคีและเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในเรื่องดังกล่าวเพื่อนำไปพิจารณาศึกษาตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการต่อไป.

ชุมพร – ปิดการแข่งขันกีฬาฟุตซอล กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร Supper cup

 ชุมพร – ปิดการแข่งขันกีฬาฟุตซอล กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร Supper cup วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2568   พันตำรวจเอก ปัญญา ท้วมศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจ...