ชุมพร - การประชุมติดตามและเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกใน แหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ของ นกอีแอ่นกินรังเพื่อการส่งออก
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 – 16.30 น. ณ สำนักงานปศุสัตว์เขต 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการจัดการประชุมติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของนกอีแอ่นกินรัง (Swiftlet) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีมูลค่าสูงจากการเก็บรังเพื่อการบริโภคและส่งออก ผ่านระบบ Zoom Conference โดยมี จังหวัด อื่นๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ดังกล่าว ได้แก่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพังงา สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในการนี้ นายสัตวแพทย์เดชา จิตรภิรมย์ ปศุสัตว์จังหวัดชุมพร มอบหมายให้ นายสัตวแพทย์พิชัย โพธิ์กระสังข์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ เข้าร่วมประชุมร่วมกับ สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ โดยมีคณะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญนำโดย
นายสัตวแพทย์วีรชัย สุดดี เป็นผู้เชี่ยวชาญ และเป็นผู้อำนวยการส่วนควบคุมและป้องกันโรคสัตว์ปีก กรมปศุสัตว์
นายสัตวแพทย์ธนพล เลื่องยศลือชากุล นายสัตวแพทย์ชำนาญการ
นายสัตวแพทย์พีระ โอภาสยานนท์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ
นายสัตวแพทย์ภพธร
สุระพร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์เขต 8
พร้อมเจ้าหน้าที่และนายสัตวแพทย์ประจำสำนักงานปศุสัตว์เขต 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สาระสำคัญของการประชุมและข้อเสนอแนะ
การหารือเน้นในประเด็นสำคัญ ได้แก่
- การเฝ้าระวังรังนกถ้ำ (รังนกสัมปทาน)
จังหวัดชุมพรมีเกาะรังนกทั้งหมด 13 เกาะ 1 ศูนย์รวบรวมรังนก ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนไว้ กับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร ข้อมูล ณ วันที่ 19 มกราคม พ.ศ 2567 ซึ่งเคยอยู่ภายใต้การสัมปทานจากภาครัฐ โดยมีผู้รับสัมปทานดูแลพื้นที่และร่วมดำเนินการเก็บรังนกตามฤดูกาล ปัจจุบันสัมปทานได้หมดลงทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงพบว่านกอีแอ่นกินรังจำนวนมากยังคงอาศัยอยู่ตามธรรมชาติภายในถ้ำ
เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกที่อาจเกิดจากการเคลื่อนย้ายของนกอพยพ และการสัมผัสของมนุษย์กับพื้นที่สัมปทานเดิม กรมปศุสัตว์จึงให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังเชิงรุก-เชิงรับ โดยเน้นการเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อม เช่น มูลนก และการสังเกตอาการผิดปกติในพื้นที่ โดยต้องได้รับความร่วมมือและการอนุญาตจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลสัตว์ป่าธรรมชาติ
- รังนกบ้าน (บ้านนกเอกชน)
มีการหารือเพิ่มเติมถึงรังนกบ้าน ซึ่งมีลักษณะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เปิดให้นกธรรมชาติเข้ามาอาศัย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเล เช่น ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี ตรัง กระบี่ พังงา พัทลุง เป็นต้น ซึ่งมักพบผู้ประกอบการสร้างบ้านนกเพื่อการเก็บรังในเชิงพาณิชย์
ตาม การตีความของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นกอีแอ่นกินรังถือเป็น “สัตว์ป่าคุ้มครอง” แม้จะเข้ามาอาศัยตามธรรมชาติ ก็ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการขึ้นทะเบียนครอบครองสัตว์ป่ากับกรมอุทยานฯ และต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน รวมถึงการได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานอื่น เช่น สาธารณสุขจังหวัด โยธาธิการจังหวัด และสำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการเก็บรังนกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ประชาชนหรือผู้ประกอบการที่สนใจทำธุรกิจรังนกบ้าน ต้องศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยละเอียด และดำเนินการขออนุญาตตามระเบียบจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ก่อนเริ่มดำเนินกิจการ
การเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในนกอีแอ่นกินรังต้องมีการ เก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมเป็นประจำทุกปี โดยร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานในพื้นที่
หากพบ นกป่วย หรือตายผิดปกติ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีผ่านสายด่วนสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร 077-511511,077-511614
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น