ชุมพร - ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ออร์เดอร์ไม้สักจำนวนมาก จากนายทุนนอกพื้นที่
ชุมพร - พบเห็นการลักลอบบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ไม้อายุประมาณ 30-40 ปีพบว่าไม้บางส่วนได้มีการขนย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้วไม่สามารถระบุจำนวนได้ ไม้บางส่วนทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุไม่สามารถนำออกมาได้เนื่องจากเสื่อมสภาพไม่คุ้มค่าในการขนย้าย จำนวน 11 ท่อน
วันที่ 24 ก.ค.67 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จนท.ปฏิบัติการฝ่ายการข่าวฯ กอ.รมน.จว.ช.พ. บูรณาการกำลังร่วมกับ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.6 (นาสัก),จนท.กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,จนท.ชปข.ร้อย ตชด.414,จนท.ฝ่ายปกครองอำเภอสวี ร่วมตรวจสอบกรณีรับแจ้งจากประชาชน พบเห็นการลักลอบบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ท้องที่บ้านห้วยใหญ่ (ซอย แก่งถ้วย) หมู่ที่ 11 ตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร จากการตรวจสอบของคณะเจ้าหน้าที่ ได้รายละเอียดดังนี้
1.สถานที่เกิดเหตุ ท้องที่ ป่าบ้านห้วยใหญ่ (ซอยแก่งถ้วย) หมู่ที่ 11 ตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทุ่งระยะและป่านาสัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ AO4 เป็นพื้นที่ป่าลุ่มน้ำชั้น 3 2.ในพื้นที่มีไม้สักที่เกิดจากการปลูก ในรูปแบบสวนป่าไม้สัก แต่ไม่ทราบข้อมูลผู้ปลูก อายุไม้ประมาณ 30-40 ปี พบการบุกรุกลักษณะแผ้วถางไม้พื้นล่าง และมีการตัดไม้สักที่ตายแล้วจากการโค่นล้มเองตามธรรมชาติ ตัดออกเป็นไม้ท่อนและมีการเลื่อยเป็นไม้ซีก จากการตรวจสอบ พบว่าไม้บางส่วนได้มีการขนย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้วไม่สามารถระบุจำนวนได้ ไม้บางส่วนทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุไม่สามารถนำออกมาได้เนื่องจากเสื่อมสภาพไม่คุ้มค่าในการขนย้าย จำนวน 11 ท่อน สำหรับไม้ที่สามารถขนย้ายออกมาได้เก็บรักษาไว้ที่หน่วยฯ มีไม้ท่อนจำนวน 6 ท่อน ไม้ซีกจำนวน 6 ท่อน ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ามีการปลูกต้นกล้าปาล์มน้ำมัน ซึ่งปลูกใหม่ จำนวน 50 ต้น คณะเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือหาค่าพิกัดดาวเทียม (GPS) จับพิกัดรอบแปลงพื้นที่ที่ถูกบุกรุก ตรวจวัดพื้นที่ที่ถูกบุกรุกได้จำนวน 31-0-56 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งระยะและป่านาสัก จำนวน 2-2-53 ไร่ และอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 ซึ่งยังไม่ได้จัดสรรให้แก่ผู้ใดยังคงสภาพเป็นป่า จำนวน 28-2-03 ไร่
3.คณะเจ้าหน้าที่มีความเห็นตรงกันว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐาน แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ ติดต่อ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ขณะเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบไม่พบผู้ 1 ผู้ใดในที่เกิดเหตุหรือบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุจึงไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นการกระทำของผู้ใด 5.จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.6 (นาสัก) รวบรวมเอกสาร รูปถ่าย นำเรื่องราวแจ้งความกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.นาสัก เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น