ชุมพร - ร่วมประชุมแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยง 4จังหวัดเพชรบุรี-ประจวบฯ-ชุมพร-ระนอง
วันที่ 22 สิงหาคม 2565 นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว ประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก โดยมี ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายประหยัด ช่อผกาพันธ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง ผู้แทนจังหวัดระนอง, นางสาวมิ่งขวัญ บุญโภคัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี ผู้แทนจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการ ส่วนราชการ ภาคเอกชน สมาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง เข้าร่วมประชุม ที่โรงแรมนานาบีช อ.ปะทิว จ.ชุมพร
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า วันนี้เราได้ร่วมกันพิจารณาขับเคลื่อนแผนงานโครงการภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก ทั้ง 4 จังหวัด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณแผนการบูรณาการแผนการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาเห็นชอบโครงการที่นำเสนอมาทั้งหมด และให้มีการจัดทำรายละเอียดบางโครงการเพิ่มเติม ทั้ง 4 จังหวัด ซึ่งในภาพรวมของการนำเสนอโครงการนั้น จังหวัดเพชรบุรี ได้นำเสนอโครงการ รวมทั้งโครงการที่จะต้องจัดทำเพิ่มเติมตามมติที่ประชุม โดยประมาณ 17.8 ล้าน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะต้องจัดทำโครงการที่นำเสนอ และจัดทำเพิ่มเติมในวงเงินงบประมาณ 67.0ล้าน ส่วนจังหวัดชุมพร นั้นได้นำเสนอโครงการที่เป็นแลนด์มาร์คเพื่อเชื่อมต่อ Thailand Riviera ก็มีงบประมาณในการออกแบบและการก่อสร้างในเบื้องต้น รวมทั้งหมด 132.9 ล้าน จังหวัดระนอง มีโครงการที่นำเสนอรวมงบประมาณทั้งหมด 91.889ล้านบาท รวมงบประมาณโครงการทั้ง 4 จังหวัด ที่คณะกรรมการเห็นชอบนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 190.583 ล้าน ก็จะแยกย้ายตามแต่ละจังหวัด มากน้อยแล้วแต่ว่าบางจังหวัดนั้นอาจจะนำยุทธศาสตร์ที่ 1 มาใช้ในการพัฒนาก็คือด้านโครงสร้างพื้นฐาน ก็จะต้องมีการลงทุนค่อนข้างเยอะ บางจังหวัดนั้นอาจจะนำเสนอในเรื่องของอัตลักษณ์ของจังหวัด หรือการจัดมาตรฐานยุทธศาสตร์ด้านมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวก็ใช้ในการพัฒนาคน บุคคลต่างๆ ก็จะใช้งบประมาณไม่เยอะ แต่ก็เป็นโอกาสที่สำคัญในการพัฒนาหลายๆ จังหวัด ส่วนบางโครงการก็เป็นการทำตลาดได้อย่างเช่น การจัดวิ่งใน 4 จังหวัด ก็ใช้เงินไม่เยอะ แต่ว่ามันกระทบกับคนจำนวนมาก ก็เป็นโครงการที่สำคัญอย่างนี้เป็นต้น เพราะว่าในยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนมันมีการขับเคลื่อนโครงการ Thailand Riviera
ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวต่อว่า งบประมาณที่เราขออยู่ในปี 2567 จำนวน 190 ล้านเศษ ถือว่าไม่เยอะเลยนะครับ เพราะว่าการท่องเที่ยวของ 4 จังหวัดเรานั้น มีมูลค่าด้านการท่องเที่ยวถึง 28,435.26 ล้าน การที่จะมาสร้างความพร้อมในเรื่องเหล่านี้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว Thailand Riviera ซึ่งเป็นเขตพื้นที่พัฒนาการท่องเที่ยวเฉพาะ ถือว่ามีความสอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้ และสำหรับจังหวัดที่จะต้องมุ่งเน้นในการพัฒนาเป็นอย่างยิ่งยวดจากตัวเลขการท่องเที่ยว คือจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง เพราะใน 28,435 ล้าน เรามีรายได้ของจังหวัดชุมพร แค่ 1,536 ล้าน จังหวัดระนอง มีรายได้เพียง 558 ล้าน ขณะที่จังหวัดประจวบฯ มีรายได้อยู่ที่ 14,855 ล้าน และจังหวัดเพชรบุรี 11,485.68ล้าน คงจะต้องให้ 2 จังหวะตอนบน กับ 2 จังหวัดตอนล่าง มาทำร่วมกันเพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพต่างๆ ไปด้วยกัน และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสร้างมูลค่าให้เพิ่มขึ้น คือเน้นในเรื่องของมูลค่าไม่เน้นจำนวน ก็จะทำให้เม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวนั้นครอบคลุมในทั้ง 4 จังหวัด ก็เป็นพี่เลี้ยงให้กัน ในกรณีที่มีจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกัน ก็จะได้ช่วยๆ เสริมศักยภาพกัน
ในส่วนกิจกรรมที่สำคัญนั้น เราได้พิจารณาถึงการสร้างแบรนด์ของ Thailand Rivier ว่าเราจะสร้างสิ่งหมายจำอย่างไรให้ประเทศไทย ให้อาเซียน ให้เอเชีย และให้โลกได้รู้จัก Thailand Rivier แล้วก็มีเสน่ห์อย่างไร อันนี้ก็ได้ทำโครงการอยู่ในการพิจารณาครั้งนี้ด้วย โดยมอบให้จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ ส่วนในเรื่องการทำกิจกรรมร่วมกันของ 4 จังหวัด ก็จะจัดกิจกรรมที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้มาก ก็คือในเรื่องกิจกรรมของกีฬา ก็จะมีการออกแบบดีไซน์ โดยจังหวัดที่นำเสนอในการจัดกิจกรรมกีฬาแล้วด้วย
ขณะที่ ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราจะปรับปรุงสิ่งเดิมเพิ่มเติมสิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เรื่องของการส่งเสริม เรื่องของสุขภาพเชิงท่องเที่ยว เรื่องของการจัดแข่งขันในเชิงไตรกีฬา รวมทั้งเรื่องการวิ่ง เชื่อมโยงทั้ง 4 จังหวัด นอกจากนั้นยังได้มีประเด็นเพิ่มเติมจากที่ประชุมในเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทางประจวบคีรีขันธ์ ก็จะเป็นเซ็นเตอร์ในการดำเนินการ ส่วนระบบเชื่อมโยงเส้นทาง "ถนนเส้นทาง แนวชายหาดที่สวยงาม" เริ่มตั้งแต่เพชรบุรีลงมาถึงประจวบ และส่วนที่เชื่อมกับชุมพรก็ได้มีการเสนอโครงการขยายการจราจรเพื่อให้เกิดความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว เป็นต้น
ด้าน นายประหยัด ช่อผกาพันธ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง ผู้แทนจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จังหวัดระนอง จะได้ดำเนินงานตามความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้ง 4 จังหวัด ในด้านการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว กิจกรรมคาราวานการท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว 3 เส้นทางตามกรอบเมืองแฝดที่เชื่อมชุมพร-ระนอง และThailand Rivier รวมทั้งด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา และการท่องเที่ยวเมืองเก่าอีกด้วย
ส่วน นางสาวมิ่งขวัญ บุญโภคัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี ผู้แทนจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า จังหวัดเพชรบุรี จะพัฒนาขับเคลื่อนในเรื่องของบุคลากรการท่องเที่ยว ซึ่งเราให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมการดึงศักยภาพของบุคคลากรทั้ง 4 จังหวัด เพื่อให้เกิดการเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีจิตบริการ รวมทั้งการสร้างแบรนด์ 4 จังหวัด Thailand Rivier เพื่อสร้างการรับรู้ว่าทั้ง 4 มีความสวยงามโดดเด่นอย่างไรบ้าง ตลอดจนการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้ง 4 จังหวัดให้ตอบโจทย์แผนพัฒนาการท่องเที่ยวในการสร้างมูลค่า และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
ธนากร โกศลเมธี รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น