"บิ๊กน้อย-ธรรมนัส"สั่งระดมส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ลุยลงพื้นที่รับฟังและปัญหาเดือดร้อนชาวบ้านในภาวะราคาสินค้า-น้ำมันแพง และมอบถุงยังชีพ บรรเทาความเดือดรัอนจากผลกระทบโควิด-19
วันที่ 25 มีนาคม 2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศษฐกิจไทย เผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรงในหลายพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งสร้างผลกระทบซ้ำเติมทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนและอยู่อย่างยากลำบากมากขึ้น ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคมึราคาแพง และราคาน้ำมันแพง นั้น พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ได้กำชับให้ตนเอง และส.ส.ของพรรค เร่งให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความลำบากของพี่น้องประชาชนในทุกด้านอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของพรรค ที่ยึดมั่นเคียงข้างประชาชน ดังนั้นหากประชาชนทุกข์ร้อนในเรื่องใด ต้องพร้อมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและรับฟังปัญหา เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเร่งหาทางดูแลช่วยเหลือในระยะกลาง และระยะยาว เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมอาชีพแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบแนวคิด
"มั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดิน"
โดยล่าสุด ก็ได้รับรายงานว่าวันนี้ ส.ส.ปัญญา จีนาคำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่เพื่อมอบถุงปันน้ำใจ ให้แก่ประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบและกักตัวตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ให้แก่พี่น้องประชาชนในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้ง 7 อำเภอแล้ว ตามที่ได้รับมอบหมายไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ทาง ส.ส.เกษม ศุภรานนท์ พรรคเศรษฐกิจไทย นครราชสีมา เขต 1 ก็ได้ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนตามนโยบายของท่านหัวหน้าพรรค เช่นกัน โดยได้ไปมอบถุงยังชีพให้ชุมชนเขตเทศบาลนครนคราชสีมา 8 ชุมชนดังนี้ ชุมชนเคหะ 3 ชุมชนราชสีมาพัฒนา ชุมชนเพชรเยี่ยม ชุมชนตะคองเก่า ชุมชนหลังวัดสามัคคี ชุมชนเสาสูง ชุมชนประกอบพัฒนา และชุมชนเกษตรสามัคคี เป็นต้น
"ในพื้นที่อื่นๆ ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และภา
คใต้ทางพรรคฯไม่ได้นิ่งนอนใจในการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ หากพ่อแม่พี่น้องประชาชนพื้นที่ใด ประสบความเดือดร้อนของให้แจ้งต่อตัวแทนของพรรค ที่มีอยู่แทบทุกจังหวัด เพื่อนำมาประสานกับท่านหัวหน้าพรรค และผมเอง เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไปครับ"
ธนากร โกศลเมธีรายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น