จากกรณี นายเจษฏา จำเริญนุสิทธิ์ กำนัน ต.เขาค่าย พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาค่าย กว่า 300 คน เดินทางไปยัง ด่านคัดกรองโควิด-19 บนถนนสายเขาค่ายไปยัง อ.ละอุ่น จ.ระนอง หมู่ที่ 2 ต.ในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เขตรอยต่อระหว่าง จ.ชุมพร และ จ.ระนอง เพื่อเรียกร้องให้ผ่อนปรนมาตรการห้ามเข้าเขต จ.ระนองชาวบ้านถือป้ายเรียกร้องให้ทางราชการจังหวัดระนองผ่อนปรนการข้ามแดนเพื่อเข้าไปดูแลสวนเกษตร ทั้งสวนปาล์มและสวนทุเรียน
วันนี้ (29 เม.ย 63) ที่ศาลากลางจังหวัดระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ชี้แจงกรณีที่ชาวบ้านตำบลบ้านในวง อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง ได้รับความเดือดร้อนเรื่องการเดินทางเข้า-ออก จังหวัดระนอง-ชุมพร เพื่อไปดูแลสวนผลไม้ โดยได้เรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ให้มีการผ่อนปรนมาตรการการข้ามเขตรอยต่อในการเดินทางเข้า-ออก บ้านในวง อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง-บ้านค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นกรณีพิเศษเพื่อที่จะ ข้ามจังหวัดเข้าไปดูแลสวนผลไม้ของตัวเองได้ ล่าสุดได้สั่งการให้นายอำเภอละอุ่น นำข้อกำหนด ข้อตกลง และแนวทางจากทางจังหวัดเข้าไปชี้แจงและทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านเขตแนวรอยต่อ 2 จังหวัดระนอง-ชุมพร เพื่อหาทางออกในกรณีเรื่องดังกล่าวแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริเวณดังกล่าวไม่ได้เข้มงวดเช่นปัจจุบันที่ต้องมีใบรับรองแพทย์ โควิด-19 ช่วงแรกยังมีการผ่อนปรนให้ชาวสวนผลไม้ที่มีสวนผลไม้อยู่ในพื้นที่ จังหวัดระนอง แต่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร สามารถขออนุญาตเข้ามาทำสวนผลไม้ได้ โดยระบุให้เข้ามาเฉพาะในสวนตามระยะเวลาที่แจ้งหรือที่กำหนด แต่ปรากฏว่าช่วงหลังพบว่าผู้ที่เดินทางเข้ามาเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากที่เดินทางไปทำสวน แต่เดินทางไปในชุมชน ประกอบกับการระบาดของโรคโควิด-19 ที่จังหวัดชุมพร พบว่ามีผู้ติดเชื้อจึงทำให้ชาวบ้าน อ.ละอุ่น จ.ระนอง เริ่มหวั่นวิตกว่าอาจจะนำเชื้อโรคมาแพร่ระบาดในชุมชนได้ จึงได้ตกลงให้มีการใช้มาตรการเดียวกันกับทางจังหวัดระนอง คือผู้ที่ผ่านเข้า-ออก จ.ระนองได้ต้องมีใบรับรองแพทย์ ว่าไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 เท่านั้น ทำให้ชาวสวนที่อาศัยอยู่จังหวัดชุมพร แต่มีสวนผลไม้อยู่ในจังหวัดระนองไม่สามารถเข้ามาได้ ซึ่งชาวสวนผลไม้เริ่มวิตกและเป็นห่วงผลผลิตของตนเองซึ่งอยู่ในช่วงที่เริ่มเก็บได้ อาจสร้างความเสียหายต่อสวนผลไม้ของตนเอง จึงได้รวมตัวกันมาเรียกร้องทางอำเภอละอุ่น เพื่อขอเข้ามาดูแลสวนผลไม้ ซึ่งทางจังหวัดก็เข้าใจ แต่ในภาพรวมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องให้ความสำคัญเรื่องการสกัดการแพร่ระบาดของโรคเป็นลำดับแรก โดยจะมีการผ่อนปรนมาตรการแต่ยังคงเข้มงวด โดยข้อเสนอทางจังหวัดคือให้มีการจัดทำบัญชีสวนผลไม้ต่างๆทั้งหมด รวมทั้ง บัญชีรายชื่อเจ้าของสวนที่อยู่ในฝั่งจังหวัดชุมพร จากนั้นต้องแจ้งเรื่องขอเข้ามาในพื้นที่ จังหวัดระนอง-ต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จะเซ็นรับรอง และต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าจะเข้ามาที่สวนเพียงอย่างเดียว มีกำหนดเวลาไป-กลับที่ชัดเจน และห้ามเดินทางออกจากพื้นที่ตามที่แจ้งไว้อย่างเด็ดขาด หากชาวสวนผลไม้พอใจตามข้อกำหนดนี้ ก็ให้ดำเนินการได้
