นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ
ทิป บ๊อก สนับสนุน เว็บ Pages

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ชุมพร - “ปิดเกมเครือข่ายน้าไข่แดง” รวบแก๊งขนยาลงใต้ ยึดยาบ้าเกือบ 6 แสนเม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

 ชุมพร - “ปิดเกมเครือข่ายน้าไข่แดง” รวบแก๊งขนยาลงใต้ ยึดยาบ้าเกือบ 6 แสนเม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. และคณะผู้บังคับบัญชา เปิดปฏิบัติการ “ปิดเกมเครือข่ายน้าไข่แดง” จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมยึดยาบ้าจำนวน 590,000 เม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพรและสุราษฎร์ธานี ที่ติดตามเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดจากภาคกลางลงสู่พื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยใช้ระบบวิเคราะห์เส้นทาง Big Data จนพบรถต้องสงสัย 2 คัน ใช้วิธี “รถนำ–รถขน” วิ่งเลี่ยงถนนหลัก

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร สกัดรถยนต์เก๋ง Honda สีบรอนซ์เงิน บนถนนเอเชีย (ทล.41) กม.19+600 ต.วิสัยเหนือ อ.เมืองชุมพร พบยาบ้าจำนวนมากบรรจุในถุงดำ 3 ถุง รวม 590,000 เม็ด ก่อนขยายผลจับรถนำทาง Nissan สีขาว ได้อีกคันที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธา

นี

ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้แก่

  1. นายมนตรี หรือ “ไข่แดง” อายุ 45 ปี หัวหน้าเครือข่าย ทำหน้าที่ขับรถนำทาง
  2. นายพลากรณ์ อายุ 32 ปี คนขับรถขนยาเสพติด
  3. นายอัสฟารีส อายุ 20 ปี ผู้ช่วยบอกเส้นทาง
  4. นายชาญ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เยาวชน ผู้ช่วยบนรถนำทาง

 

ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

 

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพลากรณ์ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายมนตรีเป็นเงิน 30,000 บาท เพื่อขนยาเสพติดจากพื้นที่ปริมณฑลไปส่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนเยาวชนอายุ 17 ปี และนายอัสฟารีส ถูกหลอกลวงให้เข้าร่วมโดยอ้างว่าเป็นเพียง “ผู้ช่วยดู GPS” แลกค่าจ้าง 5,000 บาท เพื่อหาเงินใช้หนี้จากการเล่นเกมออนไลน์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติพบว่า นายมนตรี หรือ “น้าไข่แดง” เคยถูกจำคุกในคดียาเสพติดหลายครั้ง และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำกลางคลองเปรมเมื่อช่วงต้นปี 2568 ก่อนกลับมาก่อตั้งเครือข่ายใหม่อีกครั้ง

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีและสืบสวนขยายผลต่อไป

 

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

ชุมพร – ตลาดกล้วยเล็บมือนางยาวที่สุดในโลก ขานรับโครงการ “คนละครึ่ง” แม่ค้าสุดมั่นใจ เศรษฐกิจท้องถิ่นจะดีขึ้น

 ชุมพร – ตลาดกล้วยเล็บมือนางยาวที่สุดในโลก ขานรับโครงการ “คนละครึ่ง” แม่ค้าสุดมั่นใจ เศรษฐกิจท้องถิ่นจะดีขึ้น

วันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการค้าขายที่ “ตลาดกล้วยเล็บมือนางพ่อตาหินช้าง” ริมถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 439 หมู่ที่ 2 ตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “ตลาดกล้วยเล็บมือนางที่ยาวที่สุดในโลก” เต็มไปด้วยความคึกคัก มีร้านค้าจำหน่ายกล้วยเล็บมือนางและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วยมากกว่า 100 ร้าน


ภายหลังรัฐบาลเริ่มโครงการ “คนละครึ่ง” เฟสล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านจังหวัดชุมพร ต่างหยุดแวะซื้อของฝากกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กล้วยเล็บมือนางอบแห้ง ซึ่งเป็นของดีขึ้นชื่อของจังหวัด

นางสาวชพิษา ปัดวิชัย หรือ “เจี๊ยบ พ่อตาเห็นช้าง” แม่ค้าประจำตลาด เปิดเผยว่า

 

“ตั้งแต่โครงการคนละครึ่งเริ่มต้นเมื่อวานนี้ ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลูกค้าส่วนใหญ่เดินทางจากต่างจังหวัด ใช้สิทธิ์คนละครึ่งซื้อกล้วยเล็บมือนางเป็นของฝากติดไม้ติดมือ เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยให้แม่ค้าในตลาด รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยในชุมพร มีรายได้หมุนเวียนมากขึ้น และทำให้เศรษฐกิจชุมชนกลับมาคึกคักอีกครั้ง”

ตลาดกล้วยเล็บมือนางพ่อตาหินช้าง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้สะดวก โดยใช้ถนนเพชรเกษมสายหลักฝั่งขาขึ้นจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองชุมพร ผ่านอำเภอท่าแซะ จะพบตลาดตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงปั๊มน้ำมัน พื้นที่มีจุดจอดรถกว้างขวาง และมีร้านกาแฟ รวมถึงห้องน้ำบริการครบครัน

ตลาดแห่งนี้นับเป็นแหล่งจำหน่ายกล้วยเล็บมือนางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สะท้อนอัตลักษณ์ของจังหวัดชุมพรในฐานะ “ดินแดนแห่งกล้วยเล็บมือนาง” ของภาคใต้

เชิญชวนทุกท่านเดินทางมาเที่ยวชุมพร
สัมผัสรอยยิ้มของพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่น ชิมกล้วยเล็บมือนางแท้รสหวานหอมไม่เหมือนที่ใดในโลก เลือกซื้อของฝากจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ทั้งกล้วยอบแห้ง กล้วยกรอบ ขนมพื้นบ้าน และสินค้าชุมชนอีกมากมาย เพื่อร่วมสนับสนุนรายได้ของเกษตรกรและแม่ค้าชุมชน — ของดีเมืองชุมพร ที่รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง

 

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ชุมพร – มทบ.44 จัดพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพลและปลดประจำการทหารกองประจำการ สร้างความประทับใจและอบอุ่นใจในความเป็นชายชาติทหาร

 ชุมพร – มทบ.44 จัดพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพลและปลดประจำการทหารกองประจำการ สร้างความประทับใจและอบอุ่นใจในความเป็นชายชาติทหาร

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ณ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 44 จังหวัดชุมพร
พลตรี สมคิด ชูเผือก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เป็นประธานในพิธี “อำลาธงชัยเฉลิมพล และปลดจากกองประจำการ ทหารกองประจำการ” ซึ่งจัดขึ้นอย่างสมเกียรติและอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความภาคภูมิใจ

 


พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารกองประจำการที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ครบกำหนดตามระยะเวลา พร้อมเป็นการแสดงความขอบคุณต่อเหล่าทหารที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจรับใช้ชาติบ้านเมืองตลอดระยะเวลาการเป็น “ชายชาติทหาร”

พลตรี สมคิด ชูเผือก ประธานในพิธี ได้กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า

“ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา น้อง ๆ ทหารกองประจำการทุกนายได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทั้งในที่ตั้งปกติและราชการสนาม แม้จะต้องเผชิญกับความเหน็ดเหนื่อย ลำบากตรากตรำ หรือเสี่ยงภัย ก็ยังคงเสียสละทั้งกายและใจเพื่อประเทศชาติ... ขอให้ทุกท่านจงภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ลูกผู้ชายไทยอย่างสมศักดิ์ศรี และขอให้ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สมดังคำขวัญของกองทัพบกที่ว่า ‘เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน’”

ในส่วนของตัวแทนทหารกองประจำการ พลฯ ธันวา ปาละวงศ์ ได้กล่าวคำอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชา โดยกล่าวแสดงความซาบซึ้งใจที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่และส่งเสริมพัฒนาในทุกด้านระหว่างการรับราชการ พร้อมสัญญาว่าจะนำประสบการณ์จากค่ายทหารไปใช้ประโยชน์ในชีวิตและสังคมต่อไป

“เมื่อกลับสู่บ้านเกิด พวกผมจะนำความรู้ ความมีระเบียบวินัย และความเสียสละที่ได้จากค่ายทหารไปใช้ในการดำเนินชีวิต และหากวันใดประเทศชาติต้องการ พวกผมพร้อมกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งด้วยความภาคภูมิใจ”

พิธีอำลาครั้งนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ซาบซึ้ง และภาคภูมิใจ ทั้งจากผู้บังคับบัญชา เพื่อนทหาร และครอบครัวของผู้ปลดประจำการ ซึ่งต่างร่วมแสดงความยินดีและขอพรให้ทหารทุกนายก้าวสู่ชีวิตใหม่อย่างมั่นคงและมีเกียรติ

รายงานโดย: ธนากร โกศลเมธี
โทร. 081-892-3514

ชุมพร – ผ่านอำเภอสวี ลูกเขยชวนพ่อตาและญาติ 7 ชีวิต เดินเท้าจากสุราษฎร์ฯ เข้ากรุงฯ ถวายสักการะพระบรมศพ “พระพันปีหลวง”

  

ชุมพร – ผ่านอำเภอสวี ลูกเขยชวนพ่อตาและญาติ 7 ชีวิต เดินเท้าจากสุราษฎร์ฯ เข้ากรุงฯ ถวายสักการะพระบรมศพ “พระพันปีหลวง”

ชุมพร, วันที่ 30 ตุลาคม 2568 — บรรยากาศเช้าวันนี้ จังหวัดชุมพรปกคลุมด้วยเมฆฟ้าอึมครึมแต่ไร้ฝน อากาศร่มรื่นเย็นสบายตลอดเส้นทาง เปี่ยมด้วยพระบารมีแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ช่วยให้การเดินทางด้วยเท้าของครอบครัว “เกิดแก้ว” จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระบรมมหาราชวัง เป็นไปด้วยความราบรื่น



หลังจากที่ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวการเดินเท้าของครอบครัวดังกล่าว ประชาชนชาวจังหวัดชุมพรที่ทราบข่าวต่างออกมาต้อนรับ ให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบน้ำดื่มและอาหารตลอดเส้นทางการเดินผ่านพื้นที่จังหวัดชุมพร บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและซาบซึ้งใจ

นายสิทธิชัย ทองสุวรรณ อายุ 27 ปี หัวหน้าทีมผู้เดินทาง เปิดเผยว่า ตนพร้อมพ่อตาและญาติรวม 7 คน ได้แก่ นายสิทธิชัย ทองสุวรรณ อายุ 27 ปี, นายณรงค์ เกิดแก้ว อายุ 25 ปี, นายเสนอ เกิดแก้ว อายุ 62 ปี, นายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 25 ปี, นายมงคล เกิดแก้ว อายุ 39 ปี, นายสมบัติ กลิ่นรักษา อายุ 36 ปี และนายประจักษ์ เกิดแก้ว ซึ่งมาสมทบจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายธวัชชัย สุวรรณอำภา ร่วมเดินทางในช่วงแรกแต่ประสบอุบัติเหตุเจ็บเข่าจึงต้องเดินทางกลับก่อนหน้านี้
“ขณะนี้พวกเราเดินผ่านพื้นที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ขอขอบพระคุณพี่น้องชาวชุมพรที่ออกมาต้อนรับและมอบสิ่งของให้กำลังใจตลอดเส้นทาง พวกเราจะมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครด้วยความตั้งใจที่จะถวายสักการะพระบรมศพพระพันปีหลวงด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดมิได้” นายสิทธิชัยกล่าวด้วยความปลาบปลื้ม

ด้าน ร.ต.ท.สมบัติ ปัตเมฆ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับคณะผู้เดินทางตลอดเส้นทางในพื้นที่จังหวัดชุมพร ทั้งยังประสานหน่วยงานท้องถิ่นช่วยซ่อมแซมรองเท้าที่ชำรุดและจัดหาคู่ใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและต่อเนื่องจนถึงกรุงเทพมหานคร

ประชาชนในพื้นที่ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกซาบซึ้งใจในความตั้งใจและความกตัญญูของครอบครัวเกิดแก้ว ซึ่งแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวงอย่างล้นพ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน: ธนากร โกศลเมธี โทรศัพท์: 081-892-3514

 

พ.ต.อ.พิน อินมาก ผกก.สภ.บ้านวิสัยเหนือ

  ๕ ธันวาคม ๒๕๖๘ วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ น้อมส...