นายธนากร โกศลเมธี

นายธนากร โกศลเมธี
ถวายพระพร

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ

ทิป สนับสนุนเว็บ Pages ครับ
ทิป บ๊อก สนับสนุน เว็บ Pages

วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ชุมพร – แรงงานเมียนมา ตั้งชมรมรับ – ส่งศพ ช่วยเหลือต่างด้าว ศพไร้ญาติ

 ชุมพร – แรงงานเมียนมา ตั้งชมรมรับ – ส่งศพ ช่วยเหลือต่างด้าว ศพไร้ญาติ

ตรวจสอบแรงงานเมียนมา-คนไทย ตั้งชมรมบริการรับ-ส่ง ช่วยเหลือศพ ด้างด้าว ศพไร้ญาติ มีสำนักงานอยู่ในวัดดังเมืองชุมพรตรวจสอบชาวเมียนมา ร่วมกับคนไทย ตั้งชมรมช่วยเหลือ รับ-ส่งศพ แรงงานต่างด้าว ช่วยเหลือศพไร้ญาติสวมชุดติดตราเหมือนกู้ภัยไทย เบื้องต้นยังไม่พบความผิด ก่อนปล่อยตัวกลับ รอการตรวจสอบข้อมูล วัตถุประสงค์การทำงาน ณ ที่ตั้งสำนักงานอยู่ในวัดดังเมืองชุมพร

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568    ผู้สื่อข่าวได้รับรับรายงานจากกอ.รมน.จังหวัดชุมพร   เจ้าหน้าที่สนธิกำลังทุกฝ่าย ฝ่ายปกครองอำเภอสวี    กอ.รมน.และสำนักงานจัดหางานจังหวัดชุมพร บุกตรวจสอบชาวเมียนมาตั้งชมรมช่วยเหลือศพไร้ญาติ-ผู้ประสบเหตุ รับส่งศพ ใส่ชุดยูนิฟอร์มติดป้ายคล้ายสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ)และติดธงชาติไทย-เมียนมา พบมีสมาชิกกระจายทั่วจังหวัดชุมพร พร้อมเรียกเก็บเงินรายละ 200 บาท หากมีชาวเมียนมาเสียชีวิตหรือเจ็บป่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ที่กองร้อยอส.อำเภอสวี ที่ 5 นำโดย นายบุญก้อง ศรีสงครามปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง จ.อ.วิธวินท์ ตุดเกื้อ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ ศป.ปส.อ.สวีสมาชิก ร้อย อส.อ.สวี ที่ 5, นายเกียรติภูมิ โภคผล เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน สำนักงานปกครองจังหวัด ชุมพร เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ชุมพร นำโดย พ.ต กอบศักดิ์ นาคหาญ จ.ส.ต.อรรถพล คลีบำรุง, จ.ส.ต.ธนวรระน์บรรจงศิริทัศน์, จ.ส.อ.พงษ์ศิลป์ รุ่งอาญา, เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภวจ.ชพ. นำโดย พ.ต.ท.วิวัฒน์ ฉิมมณี

สว.กก.สืบสวน ภ.ว.จ.ชุมพร ดตวัชรพันธ์ ชูละออง ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.ว.จ.ชุมพร นางสาวสุวรรณี เชี้ยะสาด นัก วิชาการแรงงานปฏิบัติการ สจจ.ชุมพร

โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ร่วมกันประชุมวางแผนตรวจสอบ กรณีบุคคลต่างด้าวใช้รถรับ-ส่งศพชาวเมียนมา โดย มีการแต่งชุดใส่เสื้อกัก เสื้อคอกลม และมีตราสัญลักษณ์ เป็นรูปธงชาติไทย และติดเครื่อง หมายคล้ายสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ด้านหลังสกรีนเสื้อมีรูปธงชาติไทย ธงชาติเมียนมา เครื่องหมายคล้ายการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) และมีอักษรภาษาไทยเขียนว่า "ชมรมช่วยเหลือศพไร้ญาติและผู้ประสบเหตุทุกข์เข็ญ วัดเขาปุก.จ.ชุมพร" ติดที่เสื้อ และมีการแขวนป้ายห้อยคอแสดงสัญลักษณ์คล้ายกับชุดกู้ชีพ-กู้ภัย ในพื้นที่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบดังกล่าว ได้จำลองสร้างสถานการณ์เหมือนจริงว่า มีชาวเมี่ยนมาสูญหาย คาดว่าตกสระน้ำเสียชีวิตในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลสวี อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อหลอกล่อให้กลุ่มชาวเบียนมาออกมาตามแผนปฏิบัติการณ์

ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบหน่วยกู้ภัย-กู้ชีพชุมพรการกุศลสงเคราะห์ เขตสวี อยู่บริเวณดังกล่าวและได้ติดต่อขอให้ชาวเมียนมา มาตรวจสอบซึ่งในเวลาต่อมามีรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บท 9056 ชุมพร และพบบุคคลสัญชาติเมียนมา 4 คน ลงมาจากรถพร้อมมีป้ายห้อยคอแสดงสัญลักษณ์เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจสอบและสอบถามบุคคลทั้ง 4 คน ที่พอพูดภาษาไทยได้ ถึงเรื่องกรณีที่มีการแจ้งเบาะแสร้องเรียนให้ตรวจสอบ บุคคลทั้ง 4 นายทราบชื่อต่อมา คือ 1.THI HA ZAW หรือเรียกชื่อไทยคือ นายจักรอายุ 55 ปี เป็นหัวหน้าชุดประสานงาน 2. THET WIN TUN 3. WIN HLAING 4. AUNO SOE และเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบที่พัก โดยบุคคลทั้ง 4 ให้ความร่วมมือได้นำเจ้าหน้าที่เดินทางตรวจสอบที่พักของบุคคลทั้ง 4 ที่เป็น ห้องเช่าและบ้านพักคนงานตัดยางพาราในสวนยางในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 19 ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร พบเสื้อกักเสื้อคอกลม หมวก อุปกรณ์ปฐมพยาบาลในห้องนอนฯ

เจ้าหน้าที่สอบถามได้ให้การว่า ตนเองเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา ที่เข้ามาทำงานอยู่ในพื้นที่อำเภอสวี มานานแล้วและได้ดำเนินการตามที่มีการร้องเรียนจริง พร้อมกับเพื่อนชาวเมียนมาอีกกลุ่มหนึ่ง โดยจะมีการใส่ชุดตามที่มีการร้องเรียน และมีป้ายห้อยคอประมาณ 18 คน และจะมีสมาชิกอีกจำนวน 40 คน ที่ร่วมในการช่วยเหลือฯ ตามสติ๊กเกอร์ที่สกรีนไว้ด้านหลังของเสื้อ โดยจะมีการไปรับศพที่มีญาติ ตามที่ญาติร้องขอ ณ โรงพยาบาล และทำหน้าที่ติดต่อประสานงานหาญาติให้กับศพต่างด้าวที่ไร้ญาติ ที่ได้รับการร้องขอจากเพื่อนชาวเมียนมา โดยจะขอเรียไรเงินคนละ 200 บาท จากสมาชิกของชมรมเพื่อช่วยเหลือศพที่ยากไร้

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบป้ายห้อยคอมีการเขียนว่า "ชมรมช่วยเหลือศพไร้ญาติและผู้ประสบเหตุทุกข์เข็ญวัดเขา ปุก จังหวัดชุมพร " โดยมีรูปถ่ายของผู้มีบัตร พร้อมสติ๊กเกอร์เป็นป้ายวงกลมมีทั้งอักษรไทยและอักษรเมียนมาและมีการลงชื่อ ประธานบริหารทีมเป็นภาษาไทย

สอบถามนาย THET WIN TUN ผู้ถือบัตร ให้ข้อมูลว่า ประธานบริหารทีมเป็นคนไทย สำนักงานของชมรมอยู่ที่วัดเขาปุก จังหวัดชุมพร และรองประธาน คือนาย AUNG KO KO PAL สัญชาติเมียนมา อยู่ที่วัดเขาปุก อำเภอเมืองจ.ชุมพร สอบถามการได้มาของบัตรนาย THI HA ZAW หรือนายจักร ซึ่งพอพูดภาษาไทยได้ บอกว่าบัตร ทั้งหมด 18 ใบ ตนเองได้รับมาจาก วัดเขาปุก จ.ชุมพร เพื่อใช้ห้อยคอในขณะทำงานในพื้นที่อำเภอสวี และเคยนำศพไปส่งในพื้นที่อำเภอเมืองชุมพร และอำเภอท่าแซะ หลังจากได้รับศพมาจากโรงพยาบาลตามที่ญาติต่างด้าว ร้องขอและเป็นศพที่ทางโรงพยาบาลอนุญาตแล้วเท่านั้น จึงจะรับศพออกมาได้ แล้วก็จะให้นำไปส่งตามพื้นที่ต่างๆ ตามที่ญาติเขาแจ้งมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวชาวเมียนมาทั้ง 4 รายไปยังที่ว่าการอำเภอสวี เพื่อบันทึกการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ก่อนอนุญาตให้บุคคลทั้ง 4 เดินทางกลับที่พักในพื้นที่ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพรโดยการปฏิบัติการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในวันดังกล่าวนั้นยังไม่ได้กล่าวโทษแจ้งข้อหากับผู้ใด เนื่องจากสอบปากคำเบื้องต้นแรงงานชาวเมียนมาได้ไปรับศพต่างด้าวตามที่ญาติร้องขอจากโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลอนุญาตแล้ว และไม่ได้ไปเก็บศพตามจุดเกิดเหตุแต่อย่างใด และเป็นผู้ติดต่อประสานงานตามหาญาติหากผู้เสีย ชีวิตเป็นศพไร้ญาติ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการเดินทางไปตรวจสอบยังวัดดังกล่าว ซึ่งเป็นที่ตั้งของชมรมว่าขออนุญาตการทำงานลักษณะดังกล่าวของชาวเมียนมาได้หรือไม่อย่างไรต่อไป.

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

ชุมพร – พบซากเต่าตนุโตเต็มวัย เกยตื้นชายหาดทุ่งวัวแล่น บริเวณหน้ารูปปั้นวัวกระทิง

 ชุมพร – พบซากเต่าตนุโตเต็มวัย เกยตื้นชายหาดทุ่งวัวแล่น บริเวณหน้ารูปปั้นวัวกระทิง

วันที่ 28กุมภาพันธ์ 2568 นายจักรพงษ์ ฐานสันโดษ นักวิชาการประมง สำนักงานศูนย์วิจัยทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยตอนกลาง   รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบซากเต่าทะเลเกยตื้นที่บริเวณหาดทุ่งวัวแล่น บริเวณหน้ารูปปั้นวัวกระทิง ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร  จำนวน 1 ตัว



จากการ ตรวจสอบ พบว่าเป็นเต่าตนุ เพศเมีย  หนักประมาณ 20-30 กก. อายุประมาณ 20-30 ปี สภาพเน่าเปื่อยมาก กระดองหลังแตกเนื่องจากการเน่า ผิวหนังบริเวณขาหนีบทั้งสองข้างเป็นรอยถลอกและบวมช้ำ   เจ้าหน้าที่สำนักงานศูนย์วิจัยทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยตอนกลาง ได้ทำการถ่ายภาพพร้อมบันทึกข้อมูล เเละได้นำไปผ่าชันสูตร สำนักงานศูนย์วิจัยทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร  ผลชันสูตร พบอวัยวะภายในเน่าจนไม่สามารถทราบถึงสาเหตุการตายได้ การเสียชีวิต สาเหตุการตายสันนิษฐานว่าติดเครื่องมือการทำประมงไม่ทราบชนิดที่แน่ชัด   โดยได้ติดตามเฝ้าระวัง และประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ประกอบการเดินเรือท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และประชาชนที่ทำประมงพื้นบ้านได้ระมัดระวัง ต่อไป

นายจักรพงษ์ ฐานสันโดษ เปิดเผยว่า   พบเต่าตนุโตเต็มวัยอายุประมาณ 20 ถึง 30 ปี จากการตรวจสอบสภาพเน่าทั้งตัว กระดอง ก็ฉีกแตก จากการประเมินน่าจะเสียชีวิตมาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ได้จะนำตัวไปผ่าพิสูจน์ที่ศูนย์ วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางจังหวัดชุมพร เตาส่วนใหญ่ก็จะหากินในบริเวณพื้นที่ทะเลอ่าวไทยในจังหวัดชุมพรนี้ก็มีจำนวนมากส่วนสาเหตุการตายได้ผ่าดูไม่ทราบถึงสาเหตุการตายเพราะอวัยวะภายในได้เน่าเปื่อยจนไม่สามารถที่จะทราบสาเหตุได้

 

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

ชุมพร – ต้อนรับลูกเต่าทะเล 182 ตัว กลับสู่ทะเลชุมพร

 ชุมพร – ต้อนรับลูกเต่าทะเล 182 ตัว กลับสู่ทะเลชุมพร

ครบกำหนดฟัก​ ลูกเต่า 72 วัน บริเวณหาดสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้ปล่อยลูกเต่าจำนวน 182 ตัว ลงบริเวณหาดที่ฟักซึ่งเป็นไปตามระบบวงจรชีวิตตามธรรมชาติของเต่า



วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าว รายงาน จนท.กลุ่มสัตว์ทะเลหายากและใกล้​สูญพันธุ์​ สังกัดศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ศวทก.) ได้เข้าตรวจสอบหลุมไข่เต่าทะเล ที่ครบกำหนดฟัก​ บริเวณหาดสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร

 

จากกรณี  กรมทะเล พบเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ 197 ฟอง ในบริเวณหาดสะพลี จ.ชุมพร คาดเป็น “เต่ากระ” เจ้าหน้าที่ย้ายไข่ไปยังที่ปลอดภัย และทำคอกไม่ให้สัตว์อื่นมาขุด  วันนี้ (18 ธ.ค. 67) เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ได้รับแจ้งจากว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วานนี้ พบเต่าทะเลกำลังขึ้นมาวางไข่ในบริเวณหาดสะพลี หมู่ที่ 5 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร และได้กลับลงทะเล เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้

จากการตรวจสอบรอยคาดว่าเต่าทะเลตัวดังกล่าวเป็น “เต่ากระ” โดยพบไข่ทั้งหมด 197 ฟอง หลุมลึก 30-40 ซม. เนื่องจากบริเวณหลุมไข่เต่าน้ำทะเลท่วมถึง ทางเจ้าหน้าที่จึงย้ายไข่ไปยังบริเวณใกล้เคียง และได้ทำคอกเพื่อป้องกันสัตว์อื่นมาขุด และได้มีการประสานงานกับประชาชนในพื้นที่ในการแจ้งพบเจอแม่เต่าทะเลขึ้นวางไข่ในบริเวณดังกล่าว

ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 จนท.กลุ่มสัตว์ทะเลหายากและใกล้​สูญพันธุ์​ สังกัดศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ศวทก.) ได้เข้าตรวจสอบหลุมไข่เต่าทะเล ที่ครบกำหนดฟัก​ บริเวณหาดสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ที่ขึ้นวางไข่เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 จำนวน 197 ฟอง โดยใช้ระยะเวลาในการฟัก 72 วัน จากการตรวจสอบพบลูกเต่ากระฟักทั้งสิ้น 182 ตัว คิดเป็นอัตราการฟักร้อยละ 92.4 แต่พบลูกเต่า 1 ตัวเสียชีวิตภายในรัง เจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลทางชีววิทยา ได้แก่ ขนาดตัว จากการตรวจสุขภาพโดยรวมพบว่าลูกเต่าสมบูรณ์

แข็งแรง เต่าตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ดี จึงได้ปล่อยลูกเต่าลงบริเวณหาดที่ฟักซึ่งเป็นไปตามระบบวงจรชีวิตตามธรรมชาติของเต่า

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ชุมพร - สาวบีเอ็มยอมเปิดหน้าขอโทษครั้งแรกภายในศาล

 ชุมพร – ทนายแก้วมาศาลในฐานะโจทก์ร่วม คดีรถบีเอ็มชน3ศพ วันนี้ขึ้นศาลครั้งที่3

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ศาลจังหวัดชุมพร   ทนายแก้วมาศาลในฐานะโจทก์ร่วม คดีรถบีเอ็มชน3ศพ วันนี้ขึ้นศาลครั้งที่3 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568  ส่วนวันนี้ทนายแก้วมาศาลในฐานะโจทก์ร่วม ได้สอบถามจำเลยว่า เจอหน้ากับตัวผู้เสียหาย น่าจะขอโทษขอขมากันบ้าง  เมื่อเป็นเช่นนั้น  จำเลยจึงได้เดินเข้าไปยกมือขอโทษและ ตัวผู้เสียหายแต่ขอให้ถอดแมส ตัวจำเลยจึงได้มีการถอดแมสครั้งแรกในศาล แต่ตัว ผู้เสียหายก็มีความรู้สึกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำไมถึงไม่คิดที่จะมาขอโทษ ไม่คิดที่จะเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นเลย ตัวจำเลยก็เงียบ เมื่อเห็นว่าไม่สามารถตกลงกันได้เพราะจำเลยไม่มีตัวเลขที่จะเสนอ  ทนายแก้วจึงขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป  โดยมีการตรวจพยานหลักฐาน พนักงานอัยการโจทก์แถลงขอสืบพยาน 7 ปาก ฝ่ายโจทก์ร่วมแถลงขอสืบพยานจำนวน 7 ปาก และฝ่ายจำเลยขอสืบพยานจำนวน 4 ปาก

จากกรณี คดีรถบีเอ็ม ชน3ศพ  วันนี้ขึ้นศาลครั้งที่3 เป็นนัดตรวจพยานหลักฐาน จำเลยมาศาล ศาลออกนั่งพิจารณา ได้มีการ สอบถามจำเลยว่าจะเยียวยาค่าเสียหายให้แก่โจทก์ร่วมอย่างไร? จำเลยแจ้งว่า ยังไม่มีตัวเลข ที่จะเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ส่วนคดีอาญาก็รับสารภาพเฉพาะข้อหาประมาททำให้บุคคลถึงแก่ความตายเท่านั้น ส่วนข้อหาอื่นไม่ว่าจะเป็นข้อหาเสพสารเสพติดก็ดี ขับรถขณะมึนเมาก็ดี รวมถึง หลังจากการชนไม่ได้ให้การช่วยเหลือก็ดี ล้วนให้ การปฎิเสธ  ศาลจึงกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ และสืบพยานจำเลยในวันที่ 22 ถึง 25 กรกฎาคม 2568

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ชุมพร – พบแล้วร่างไร้วิญญาณพ่อแท้ ๆ ย่ำยีลูกสาววัย 15 ปีจบชีวิตในสวนทุเรียนหลังบ้านหนีความผิด

 ชุมพร – พบแล้วร่างไร้วิญญาณพ่อแท้ ๆ ย่ำยีลูกสาววัย 15 ปีจบชีวิตในสวนทุเรียนหลังบ้านหนีความผิด

 

พบแล้วร่างไรวิญญาณพ่อแท้ ๆ ย่ำยีลูกสาววัย 15 ปี จบชีวิตในสวนทุเรียนหลังบ้านหนีความผิด หลังผู้เป็นแม่พาลูกเข้าแจ้งความเมื่อวานนี้

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.0 0 น24 ก.พ. 68 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ภูวิช ศรีคุ้ม รอง สว.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ ได้รับแจ้งว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตอยู่ภายในสวนทุเรียน ม.18 ต.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ฉัตรชัย นวลจริง รอง ผกก.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ แพทย์ รพ.พะโต๊ะ และอาสากู้ชีพกู้ภัย รพ.พะโต๊ะ

สวนทุเรียน ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยประสานมิตร 3 มีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน  จุดเกิดเหตุห่างจากถนนสายหลังสวน-พะโต๊ะ เข้าไปกว่า 2.5 กม.สองฝั่งเป็นสวนทุเรียน เป็นช่องเขาสูงและลาดชัน เป็นสวนทุเรียน อยู่หลังบ้าน หมู่ที่ 18 ต.พะโต๊ะ  อ พะโต๊ะ จ ชุมพร  พบศพชาย สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ผูกคออยู่กับกิ่งทุเรียน สูง 4 เมตร ห่างจากบ้านประมาณ  200 เมตร  ในบริเวณพบเครื่องตักหญ้า 1 เครื่องลักษณะจะเข้ามาตัดหญ้า กู้ภัย จึงได้นำร่างลงมาตรวจพิสูจน์ด้านล่าง ทราบชื่อภายหลังคือนายอนุสรณ์ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี  ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนลูกสาวตัวเอง อายุ 15 ปี ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.5

ร.ต.อ.ภูวิช ศรีคุ้ม มอบให้  เจ้าหน้าที่นำร่างมาชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.พะโต๊ะ แพทย์คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 12 ชม. ในเบื้องต้นคาดหนีความผิดประกอบละลายในสิ่งที่กระทำลงไป จึงตัดสินใจจบชิตด้วยการผูกคอประกอบกับทางญาติ ไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงมอบให้ไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

โต๊ะ ตอลดทั้งวัน โดยญาติเกิดความเป็นห่วง ได้พยายามเข้ามาดูแลและได้นำข้าวปลามาให้ แต่พอตกเย็นทางญาติมาหา ก็ไม่พบ จึงได้ระดมกันค้นหาตัวเพราะเกรงจะทำร้ายตนเอง แต่ตลอดทั้งคืนที่ค้นหาก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด

นายกรีธา สุขศิริผู้ใหญ่บ้าน ม.18 เล่าว่า มอบหมายให้ นายสำรอง วิเศษแก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน  ออกติดตามตัวพ่อผู้ก่อเหตุ ด้วยความเป็นหวังว่าจะคิดสันทำร้ายตัวเอง โดยให้ออกตามที่บ้าน แต่ก็ไม่พบตัว และมีการเปิดหน้าต่างเอาไว้แต่ภายในบ้านไม่มีคน   จนล่าสุดเมื่อช่วงเช้า น้องชายของ นายสำรอง วิเศษแก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็น เพื่อนบ้านซึ่งมีสวนทุเรียนติดกันได้เข้าไปดูทุเรียนเพราะมีฝนตกหนักเกรงทุเรียนจะร่วงหล่นลง จึงได้พบนายอนุสรณ์ ผูกคออยู่ในสวน และได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

 

นายชนินทร์ ชะเอมเทศ อายุ 50 ปี อาสากู้ชีพโรงพยาบาลพะโต๊ะ เล่าวา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเวลา 08.30 น ว่ามีเหตุคนผูกคอตายที่สวนผลไม้ หลังบ้าน ม.18 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จึงได้มานำร่างลงมาจากต้นทุเรียนในสวนหลังบ้านของผู้ตาย  เบื้องต้น หายออกจากบ้านไป ประมาณ บ่าย 3 โมง ทางญาติเอาข้าวเข้าไปให้ แต่ไม่เจอจึงเปิดบ้าน เข้าไป แต่ก็ไม่มีคนอยู่ในบ้าน คิดว่าคงไปตัดหญ้าในสวน ก็เลยออกตามหา ก็ยังไม่เจอ เจ้าของสวนข้างบ้านมาเห็นเข้า จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่  จากการออกติดตามที่ไม่เจออาจจะเป็นเพราะว่าเสื้อผ้าของผู้ตายที่สวมใส่นั้นสีกลมกลืนกับสีของต้นทุเรียนจึงทำให้ไม่มีใครเห็น และได้นำร่างผู้เสียชีวิตมาที่ วัดปะติมะ เพื่อรอญาติมาทำพิธีทางศาสนาต่อไป

 

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ชุมพร – ช้างป่าทำร้าย เหยียบเจ้าของสวนทุเรียนดับคาที่

 ชุมพร – ช้างป่าทำร้าย เหยียบเจ้าของสวนทุเรียนดับคาที่

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรับแจ้ง จากชาวบ้าน มีเจ้าของสวนทุเรียนถูกช้างป่าทำร้าย เสียชีวิต 1 ราย  หมู่บ้านน้ำใส หมู่ 17 ตำบลรับร่ออำเภอท่าแซะจังหวัดชุมพร  ช่วงเช้าวันนี้ที่ผ่านมา   รายงาน มีชาวบ้าน ถูกช้างป่า  5 เชือก แต่ มี1เชือกที่ วิ่งมาทำร้าย ผู้เสียชีวิต ช้างได้ทำลายพืชผลทางการเกษตร เสียหายบางส่วน และ มาอยู่ในพื้นที่หมู่บ้าน และ ได้มาทำร้าย นาย ชวน กาญจนณรงค์ อายุ 68 ปี ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านขณะเกิดเหตุ ภรรยาชวนให้ออกจากบ้านเนื่องจากกลัวจะเกิดอันตรายแต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมออกจากพื้นที่  โดยมีการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ให้ออกจากพื้นที่อันตรายและให้ชาวบ้าน 10 กว่าครัวเรือนรีบอพยพ ออกจากที่เกิดเหตุ เพราะเป็นพื้นที่อันตราย  แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมออกเพราะเป็นห่วงผลผลิตภายในสวน แต่ไล่ให้ภรรยาออกไปก่อน

นาย สุมล กันสุวรรณ อายุ 55 ชาวบ้าน ในชุมชนเล่าให้ฟังว่า  ตอนนี้ชาวบ้านวิตกกังวลเรื่องการเป็นอยู่ การใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นสวนปาล์มสวนยางพาราหรือว่าจะเป็น สวนทุเรียน  วันนี้ในช่วงเวลาตีสี่ตีห้าชาวบ้านเห็นช้างห้าเชือกมาอยู่ใกล้ใกล้บริเวณบ้านของชาวบ้านจึงแตกตื่นเกิดความหวาดกลัวได้ออกมาจากบริเวณที่อยู่อาศัย  ในช่วงเกิดเหตุไม่มีใครพบเห็นส่วนใหญ่ชาวบ้านที่พบเห็นช้างก็จะอพยพออกมาข้างนอกเขต พื้นที่รอยต่อของการเดินทางของช้างป่าเพื่อความปลอดภัย แต่นายชวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ในบ้านโดยให้ภรรยาออกมาข้างนอกก่อนเพราะแกยังเป็นห่วงในทรัพย์สินและผลผลิตทางการเกษตรของแกจึงเฝ้าอยู่ในบ้าน และชาวบ้านเข้าไปเจอในช่วงเช้ามืดแล้วพบว่าเป็นศพแล้ว   ช้างป่าที่มาทั้งหมดรวมทั้งหมดห้าเชือกแต่มีอยู่เชือกเดียวที่เข้ามาทำร้ายไม่ทราบว่าเป็นเพศอะไร และก็ยังเฝ้าศพไม่ห่างประมาณ 200 เมตรที่เฝ้า วนเวียนไม่ห่างจากศพจึงมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาตรวจสอบและดูแลและแจ้งให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่เพราะเกรงความไม่ ปลอดภัยของประชาชน  พื้นที่ป่าตรงนี้เป็นป่าชั้นในเป็นป่ารอยต่อของป่าเสด็จในกรมหลวงชุมพรเป็นพื้นที่ติดต่อกันหลายเขตหลายตำบล  มีตำบลหินแก้ว ตำบลรับร่อ  ตำบล จปร.  ตำบลวังใหม่ ช้างป่าสามารถเดินหากินในบริเวณนั้นตลอด

ชาวบ้านในบริเวณนี้ประมาณ 100 กว่าครัวเรือนที่ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงกลัว ช้างป่าจะเข้ามาทำร้าย  ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของสวน ทุเรียน  สวน ยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน  ช่วงนี้กำลังดูแลเรื่องทุเรียนไม่ว่าเป็นการรดน้ำใส่ปุ๋ย และอีกต่างๆชาวบ้านเกรงกลัวช้างป่าเข้ามาในพื้นที่มาหากิน จะเข้ามาทำร้ายพืชผลและชีวิตของชาวบ้านอีก

 

 

 

นาย นิพนธ์ ทองยอด สมาชิก อบต หมู่ 17 เล่าว่า มีชุดเจ้าหน้าที่ติดตามช้างมาหากินในพื้นที่ จะมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าดูแลกับชุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ระมัดระวังช้างเข้าในพื้นที่ของชาวบ้านอยู่ เมื่อเวลา 24.00 น ผู้ใหญ่บ้านว่าช้างนอนแล้วจึงได้ออกจากพื้นที่ แต่ก็ไม่นึกว่า ช้างมันจะวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง  ผู้เสียชีวิตเป็นลูกบ้านในความดูแลเค้าก็คิดว่าอยู่ดูแลพืชผลไม่คิดว่าจะมาทำร้าย ส่วนใหญ่จะผ่านมากินพืชกล้วย มะพร้า ของชาวบ้าน

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ชุมพร – จับแรงงานต่างด้าวจำนวน 36 คน เดินทางมาจากกาญจนบุรีนำมาหลบพักที่ชุมพร

ชุมพร – จับแรงงานต่างด้าวจำนวน 36 คน เดินทางมาจากกาญจนบุรีนำมาหลบพักที่ชุมพร

วันที่ 21 กุมภาพันธ์  2568  กำกำลัง ฉก.ร.25 ภายใต้การสั่งการ ของ พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผบ.ฉก.ร.25 สั่งการให้ตรวจสอบการขนยายแรงงานผิดกฎหมาย กกล.เทพสตรี  ( ฉก.ร.25 )   จุดตรวจศิลาสลัก ร้อย.ร.2521 สนธิกำลังร่วมกับ ป.ฉก.ร.25,กอ.รมน. จังหวัดชุมพร,ฝ่ายปกครองอำเภอท่าแซะ,ร้อย.ตชด.414,ตร. ท่องเที่ยว จ.ชุมพร,ตร.สภ.ท่าแซะ,ป้องกันจังหวัดชุมพร,จัดหางานจังหวัดชุมพร,ตม.จว.ชพ., ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่ามีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา มาพักอยู่ เชิงเขา ในพื้นที่ ม.4 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จว.ชพ. จึงจัดกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางบนเชิงเขา และมีป่าทึบห่างไกลผู้คนสันจรได้มีการจัดตั้งเพิงพังด้วยผ้าใบสีฟ้า อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ 5 กิโลเมตร เชิงเขา ในพื้นที่ ม.4 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จว.ชพ.     ตรวจพบและสามารถควบคุมตัวชาวเมียนมาได้ จำนวน 36 คน เป็นชาย 24 คน และหญิง 12 คน จากการตรวจสอบชาวเมียนมาจำนวนดังกล่าวไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง (พาสสปอร์ต ) มีรายละเอียดดังนี้

 

จากการสอบถามชาวเมียนมา ให้การว่าตนเองเดินทางมาจากพื้นที่ต่างๆในพื้นที่ประเทศเมียนมา โดยรถโดยสาร มาลงที่ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา จากนั้นนายหน้าพาเดินทางต่อโดยรถโดยสารไปยัง เมาะลำไย ประเทศเมียนมา จากนั้นเดินทางต่อจาก เมาะลำไย โดยรถตู้โดยสาร มาลงที่ เจดีย์สามองค์ (อ่านจากป้าย) จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2568 จากนั้นเดินทางต่อโดย รถเอสยูวี สีแดง (1 ในรถขน)  ใช้เวลาเดินทางเป็นเวลา จำนวน 1 วัน มาลงที่บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน จากนั้นเดินเท้ามายังบริเวณ ป่าใกล้สวนปาล์มน้ำมัน จากนั้นพักอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นระยะเวลา 5 วัน เพื่อรอเดินทางต่อไปไปยัง พื้นที่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา และประเทศมาเลเซีย โดยค่าเดินทางไป อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา เป็นเงินจำนวน 19,000 บาท และ ประเทศมาเลเซียเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท โดยจะจ่ายเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว

เจ้าหน้าที่ กกล.เทพสตรี  ( ฉก.ร.25 )   เปิดเผยว่า ได้รับการสั่งการจาก พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผบ.ฉก.ร.25 ให้เข้ามาปฏิบัติในการตรวจสอบพื้นที่บริเวณนี้นะครับซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ หมู่ 4 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร บริเวณดังกล่าวก็เป็นการดัดแปลงทำเป็นเพิงพักพบแรงงานทั้งสิ้น 36 คน เป็นชาย  24 คน ที่เหลือก็เป็นหญิงนะครับ เดินทางเข้ามายังประเทศไทยบริเวณศาลเจดีย์สามองค์  แล้วก็เดินทางมาด้วยรถเอสยูวีต่างคนก็ต่างเดินทางมานะครับคันละ ประมาณ 15 คนแล้วก็ปลายทางที่จะไปก็คือมีมาเลเซียแล้วก็จังหวัดสงขลา  ส่วนที่ส่งมาเลเซียก็สอบถามค่าเดินทางก็จ่ายคนละ 50,000 บาทให้นายหน้าแล้วก็ในส่วนของจังหวัดสงขลาก็คนละ 19,000 บาท การที่มาอยู่บริเวณนี้นะครับเบื้องต้นเป็นการสลับรถนะครับเปลี่ยนเปลี่ยนรถ และรอการขนยาย

พ.ต.กอบศักดิ์ นาคหาญหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานข่าว กอ.รมนชุมพรเปิดเผยว่า ได้รับการประสานประสานทางโทรศัพท์จากเจ้าที่ที่จับกุมพบนะครับกลุ่มแรงงานต่างด้าวนะครับในเบื้องต้น ในบริเวณเทือกเขาแห่งหนึ่งของด้านหลังของสถานที่แห่งหนึ่งในตำบลรอบๆซึ่งจากการสืบทราบแล้ว  ก็เป็นอยู่ในส่วนของหมู่ที่ 4 ตามข้อมูลที่ผู้หมวดท่านได้ให้ข้อมูลไปแล้วครับก็ในส่วนของคนนอกจังหวัดชุมพรนะครับก็เลยร่วมนะครับประกอบไปด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยครับเพราะจะมีในส่วนของตำรวจท่องเที่ยว มี ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร มีฝ่ายปกครองจังหวัดชุมพร    แล้วก็ยังมีในส่วนของเจ้าที่อีกหลายหลายหลายหน่วย ที่ไม่ได้กล่าวถึงนะครับก็จะร่วมกันในตรงนี้ตรงนี้ ประสานมายังในส่วนของฝ่ายปกครองของอำเภอท่าแซะนะครับซึ่งท่านปลัดท่านเองก็ดำเนินการเรื่องนี้อยู่ครับส่วนข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดตามที่ทางท่านผู้หมวดครับข้อมูลตรงนี้ต้องขออนุญาต นำเรียนว่ากอรมน.จังหวัดชุมพรโดยเฉพาะ ภายในจังหวัดจังหวัดชุมพรและฝ่ายปกครองรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เราอยู่เฝ้าระวังเรื่องการขนยายแรงงานนี้อยู่แล้วนะครับแล้วก็อาจจะมีการลักลอบที่เราไม่สามารถที่จะตามสืบได้ครับแต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น การกระทำมันก็ไม่พ้นการจับกุมซึ่งก็ได้มาจากการในส่วนของทางประสานจากทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติตามที่เราเห็นตามนี้ครับ

จากนั้นดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19โดยการพ่นแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับชาวเมียนมาและควบคุมส่ง สภ.ท่าแซะเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

ชุมพร –  เปิดเพลงเสียงดังเป็นเหตุ จอดรถหน้าบ้านแล้วเกิดเสียงดัง ทำให้ผู้บาดเจ็บออกมาด่า เลยถูกยิง

 ชุมพร –  เปิดเพลงเสียงดังเป็นเหตุ จอดรถหน้าบ้านแล้วเกิดเสียงดัง ทำให้ผู้บาดเจ็บออกมาด่า เลยถูกยิง วันที่ 20 มิถุนายน 2568 เวลา 06.30 น พ.ต....